เพราะเรื่องกินคือเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราซึ่งเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นประเทศที่มีร้านอาหารหลากหลายประเภทเปิดกันอย่างคึกคักตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งในช่วงปี 2023 นี้ เรียกได้ว่าเป็นปีที่ธุรกิจร้านอาหารเริ่มฟื้นตัวและกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง แต่แน่นอนว่าหลังจากที่เราทุกคนต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมการรับประทานอาหารเปลี่ยนแปลงไปด้วย ชวนจับตา 5 เทรนด์ธุรกิจอาหารที่น่าสนใจในปี 2023 ที่เหล่าผู้ประกอบการควรรู้ เพื่อปรับตัวให้ทันและกลายเป็นผู้นำในธุรกิจร้านอาหารก่อนใคร
5 เทรนด์ธุรกิจอาหารมาแรงแห่งปี 2023
เทรนด์อาหาร Plant-Based
ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ผู้บริโภคเริ่มหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ และกังวลในเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เมนู Plant-Based หรือ Vegan จึงกลายมาเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2023 นี้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่ทำจากพืช หรืออาหารแช่แข็ง Plant-Based พร้อมรับประทาน ซึ่งร้านอาหารหลาย ๆ ร้านก็ได้มีการเพิ่มตัวเลือกวัตถุดิบจากพืช และเมนู Plant-Based เข้ามาเป็นตัวเลือกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า แม้กระทั่งร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังเองก็พากันตบเท้าร่วมเปิดตัวเมนูจากพืชด้วยเช่นกัน
ซึ่งเมื่อเราหันมาโฟกัสกับการใช้วัตถุดิบจากพืช หรือการนำเสนออาหารแช่แข็ง Plant-Based เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า สิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ กระบวนการจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ อย่างการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เพื่อช่วยคงความสดใหม่ รักษารสชาติ และคงคุณค่าสารอาหารให้นานที่สุดก่อนเสิร์ฟถึงมือลูกค้า ทั้งยังเป็นตัวช่วยให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้าทุกพื้นที่ในประเทศได้มากขึ้นอีกด้วย
เทรนด์วัตถุดิบ Hyper-Local
จากแนวคิดที่ต้องการจะลด Carbon Footprint พร้อมช่วยสนับสนุนร้านค้ารายย่อย เทรนด์วัตถุดิบอาหาร Hyper-Local จึงกลายมาเป็นเทรนด์ที่กำลังจะมีบทบาทสำคัญในปี 2023 โดยเจ้าของธุรกิจร้านอาหารจะเริ่มเข้าไปเป็นพาร์ตเนอร์กับฟาร์มหรือแหล่งวัตถุดิบรายย่อย เพื่อช่วยลดต้นทุน ลดมลพิษ และช่วยให้ธุรกิจรายย่อยเหล่านี้มีโอกาสได้เติบโต ซึ่งหัวใจสำคัญของเทรนด์นี้ก็คือ การขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมินั่นเอง เพราะในการจัดส่งวัตถุดิบจากฟาร์มหรือพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากตำแหน่งที่ตั้งของร้านอาหาร หากเลือกใช้พาหนะที่ไม่เหมาะสม หรือใช้เวลาในการเดินทางมากเกินไป ก็อาจทำให้วัตถุดิบเน่าเสีย กลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นและยังกลายเป็นการสร้างขยะเหลือทิ้งอีกด้วย ในขณะที่การขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมินั้น จะช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เทรนด์เดลิเวอรี่
ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาดเป็นต้นมา ทำให้หลายร้านต้องปรับตัวมาชูเรื่องบริการเดลิเวอรี่กันมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และเป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการขาย ทำให้ร้านสามารถอยู่รอดได้ในทุกความเปลี่ยนแปลง ซึ่งแม้กระทั่งร้านที่ขายสินค้าประเภทผัก ผลไม้ อาหารทะเลสด ๆ รวมถึงของหวานอย่างเค้กและไอศกรีม ที่ดูจะเป็นเรื่องยากในการจัดส่ง ก็สามารถปรับตัวเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้ ด้วยการหันมาใช้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ โดยบริการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ร้านสามารถจัดส่งสินค้าได้ทุกประเภทเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสให้ร้านอาหารที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล สามารถขยับขยายตลาดให้เติบโตได้ ด้วยเทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิ และวิธีการจัดส่งที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทที่ต้องรับประทานวันต่อวันเพื่อป้องกันการเน่าเสีย หรือเบเกอรี่ที่ต้องคุมอุณหภูมิเป็นพิเศษ ก็สามารถจัดส่งถึงมือลูกค้าได้ทั่วประเทศด้วยบริการนี้
เทรนด์ Food Hall/Pop-Up
อีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงก็คือ เทรนด์ Food Hall ที่รวมร้านอาหารหลาย ๆ ร้านมาไว้ในที่เดียว เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกทานเมนูที่ชอบได้อย่างจุใจ และเทรนด์ร้านอาหารแบบ Pop-Up ที่แม้กระทั่งร้านอาหารใหญ่ ๆ ก็กระโดดเข้ามาร่วมด้วย โดยการขยายหน้าร้านขนาดเล็กไปเปิดยังจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น หากคุณคือผู้ประกอบการที่สนใจจะเปิดร้าน Pop-Up หรือเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Food Hall เพื่อขยายฐานลูกค้า สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมวัตถุดิบให้เพียงพอสำหรับการเสิร์ฟในแต่ละวัน และทำการกระจายวัตถุดิบไปยังหน้าร้านทุกสาขาให้รวดเร็ว แน่นอนว่าในกระบวนการนี้ บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน
ผูกปิ่นโตออนไลน์ Food Subscription
ปิดท้ายด้วยเทรนด์ที่ตอกย้ำถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในการขยับขยายธุรกิจให้เติบโต นั่นก็คือเทรนด์การผูกปิ่นโตออนไลน์ หรือ Fodd Subscribtion ทางเลือกใหม่เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ชาวออฟฟิศที่ไม่มีเวลาทำอาหารด้วยตัวเอง แต่ก็อยากทานอาหารที่ปรุงสดใหม่และได้คุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน เพื่อดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยเป็นการสั่งอาหารล่วงหน้าเป็นมื้อใหญ่ เพื่อเก็บไว้ทานตลอดทั้งเดือน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกจัดเมนูได้ตามชอบ จากนั้นทางร้านจะทำการจัดส่งอาหารด้วยรถขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เพื่อช่วยคงความสดใหม่ ป้องกันไม่ให้อาหารเสียรสชาติ ให้ลูกค้ารู้สึกราวกับได้ทานอาหารปรุงใหม่ ๆ ในทุกมื้อ
บริการรถขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิจาก SCG Logistics มาพร้อมคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลที่เหมาะสมในการกระจายสินค้า มีทั้งห้องเย็นและห้องแช่แข็ง ทั้งยังมีระบบจัดเก็บสินค้าแบบเคลื่อนที่ได้ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการขยายธุรกิจให้เติบโต พร้อมก้าวทันเทรนด์ใหม่ ๆ สามารถขนส่งวัตถุดิบและอาหารแช่แข็งได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สอบถามรายละเอียดบริการ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD
ที่มา
marketingoops.com
foodinstitute.com
forbes.com