ในปัจจุบันโอกาสการเติบโตของธุรกิจมีเพิ่มมากขึ้นจากการเห็นโอกาสในหลายๆ ด้านเช่น เส้นทางการคมนาคมและการขนส่งที่ไร้พรมแดน ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีช่องทางเพิ่มมากขึ้นในการจำหน่ายสินค้าอย่างเช่น การนำเข้าส่งออกเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งช่องทางการจำหน่ายสินค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากการพัฒนาแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องมีหน้าร้านหรือไปเปิดสาขา ดังนั้นผู้ประกอบการที่สนใจนำเข้าส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ จำเป็นต้องเตรียมตัวในกรณีที่มีการซื้อขายแล้วต้องทำการส่งสินค้าไปต่างแดน ตั้งแต่การเตรียมสินค้า รวมถึงการเลือกบริษัทส่งออกต่างประเทศที่เหมาะสม
แม้ว่ากฎหมายในต่างแดนจะมีข้อจำกัดมากมาย แต่การส่งของไปต่างประเทศนั้นไม่ยากอย่างที่คิดหากเรามีการเตรียมตัวให้พร้อม SCGJWD มีข้อแนะนำก่อนส่งสินค้าไปต่างประเทศมาแนะนำกัน
ข้อแนะนำก่อนนำเข้าส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ
1. ทราบถึงข้อกำหนดสินค้านำเข้าของประเทศปลายทาง
ผู้ประกอบการจำเป็นต้องหาข้อมูลการนำเข้าของประเทศปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้า หรือการชำระภาษีนำเข้าว่าสินค้ามูลค่าเกินเท่าไหร่ต้องเสียเท่าไหร่ หรือต้องเสียภาษีสินค้าทุกชิ้นที่นำเข้า การจัดทำ
เอกสารต่างๆ สำหรับนำเข้าสินค้า การขออนุญาต ตรวจสอบข้อกำหนดทางศุลกากรหรือหน่วยงานที่ต้องติดต่อประสานงาน
2. ใช้บริการขนส่งนำเข้าส่งออกให้เหมาะกับสินค้า
- การใช้บริการขนส่งสินค้าแบบตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งจะมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ FCL หรือ LCL โดย FCL คือการส่งสินค้าแบบเหมาตู้ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าเเบบค้าส่ง หรือรูปแบบ LCL เป็นการส่งสินค้าแบบใช้พื้นที่ในตู้คอนเทนเนอร์ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งข้อดีคือ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่จำหน่ายสินค้าเเบบค้าปลีก เป็นต้น
- ขนส่งโดยให้เหมาะกับระยะทางและเวลา หากระยะทางไม่ไกล อาทิประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศใกล้เคียงที่มีถนนเชื่อมต่อกันสามารถเลือกใช้บริการขนส่งทางรถยนต์ หรือทางรถไฟ หากระยะทางไกลและมีระยะเวลาในการจัดส่งไม่เร่งด่วนใช้การขนส่งทางเรือ แต่หากต้องการจัดส่งอย่างเร่งด่วนระยะทางไกล แนะนำให้ผู้ประกอบการใช้ขนส่งโดยเครื่องบินแทน
3. การห่อพัสดุ การระบุชื่อผู้รับ-ผู้ส่ง และประเภทสิ่งของ
เนื่องจากเป็นการขนส่งทางไกล ผู้จัดส่งจำเป็นต้องห่อพัสดุให้แน่นหนา และให้ปลอดภัยต่อสินค้าภายในมากที่สุด หากเป็นสินค้าแตกหักง่าย จำเป็นต้องห่อกันกระแทกพร้อมติดสติกเกอร์เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความระมัดระวังในการขนส่งมากขึ้น นอกจากนี้เพื่อความรวดเร็วในการจัดส่ง และการป้องกันการโดนสินค้าตีกลับ ผู้ส่งจะต้องเขียนชื่อ-สกุล ที่อยู่สำหรับการจัดส่ง เป็นภาษาอังกฤษให้ชัดเจน รวมไปถึงการระบุข้อมูลสินค้าภายในกล่องที่ต้องการจัดส่งให้ครบถ้วน ซึ่งข้อมูลที่จำเป็นจะต้องระบุ คือประเภทสินค้า จำนวน และราคาสินค้า (สกุลเงินเป็น USD)
4. การป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน
ศึกษาทำความเข้าใจถึงอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการนำเข้าหรือส่งออก ช่องทางสำหรับการรับเงินเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องการชำระเงิน
จะเห็นได้ว่าการส่งสินค้าไปยังต่างประเทศไม่ใช่เรื่องยากเลย หากผู้ส่งศึกษาข้อมูลให้ดี และเลือกบริษัทส่งออกต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือในการใช้บริการ
SCGJWD เป็นผู้ให้บริการนำเข้าส่งออกสินค้าระหว่างประเทศแบบครบวงจรทั้งทางเรือ ทางอากาศ ทางรถไฟ เเละข้ามชายเเดน มีทีมงานสำหรับประสานงานการขนส่งเครือข่ายครอบคลุม 9 ประเทศอาเซียน พร้อมบริการ พิธีการศุลกากร และการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า ภายใต้การจัดการการขนส่งแบบมืออาชีพ มีบริการให้คำปรึกษาระบบงานด้านโลจิสติกส์ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าถึงจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และครบถ้วน