แนะนำเคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า

ธุรกิจการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีช่วยดึงดูดผู้คนให้สนใจการทำธุรกิจการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้ามากขึ้น ซึ่งไม่ได้มีเพียงผู้ที่มีเงินลงทุนรายใหญ่เท่านั้นแต่ยังมี SMEs จำนวนมากที่กำลังเข้าสู่อุตสาหกรรมนี้ อย่างไรก็ตาม การมีตัวช่วยเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงไม่ได้หมายความว่าการสร้างผลกำไรจะง่ายขึ้น มีบริษัทนำเข้า-ส่งออกจำนวนมากเช่นกันที่ล้มละลายเพราะไม่ได้โฟกัสเทรนด์ของตลาด ประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงการเลือกกระบวนการ Logistics ที่เหมาะสมในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า

แม้การนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทาง e-Commerce เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์ แต่การทำความเข้าใจและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ใหญ่เช่นกัน เพราะในความเป็นจริงธุรกิจส่วนมากไม่สามารถทำการค้าขายให้กับทุกประเทศบนโลกนี้ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจต้องศึกษาและเจาะลึกถึงกลุ่มเป้าหมาย ค้นหาว่าสินค้าใดกำลังเป็นที่นิยมมากที่สุดในกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด ตัดสินใจถึงความเป็นไปได้และคิดถึงผลกำไรในการทำธุรกิจที่ประเทศเหล่านั้น อาจเริ่มจากประเมินตลาดทั่วโลก ทำความเข้าใจผู้บริโภครวมถึงข้อมูลประชากร และกำหนดภูมิภาคที่กำลังจะดำเนินการส่งสินค้าไปขาย

แต่การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดเพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้รับประกันความสำเร็จ ธุรกิจยังต้องสำรวจว่ากลยุทธ์ที่ทำงานได้ดีที่สุดในแต่ละตลาด พิจารณาเทรนด์การซื้อในท้องถิ่นที่รวมถึงช่วงลดราคา ช่วงวันหยุดยาว และช่วงที่มียอดขายสูงสุดประจำเดือน ทำความเข้าใจ local dynamics แต่ละพื้นที่มีการตอบสนองต่อเทคนิคที่แตกต่างกัน เช่น บางประเทศอาจชอบการตลาดทางโทรศัพท์ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ตอบสนองต่อการตลาดทางโซเชียลมีเดียได้ดีกว่า

ในแต่ละประเทศหรือแต่ละภูมิภาคผู้คนมักมีนิสัยที่แตกต่างกัน จึงทำให้การขยาย e-Commerce ระหว่างประเทศเป็นเรื่องยาก เพื่อให้ประสบความสำเร็จธุรกิจควรใช้เว็บไซต์ที่เหมาะสมกับภายในตลาดนั้นๆ อาจเริ่มต้นด้วยการแปลเว็บไซต์ของธุรกิจให้เป็นภาษาท้องถิ่น มีหลายภาษารองรับ ใช้นามสกุลโดเมนยอดนิยมอย่าง .com เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ หรือการออกแบบเว็บไซต์ใหม่ให้อยู่ในรูปแบบที่ใช้งานได้ง่ายสำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้น

และอาจจะก้าวไปอีกขั้นด้วยการจดชื่อโดเมนเว็บไซต์ของแต่ละประเทศ เช่น .CN สำหรับประเทศจีน, .JP สำหรับประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจและไว้วางใจในธุรกิจให้กับกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งไม่ควรมองข้ามเรื่องวิธีการชำระที่เป็นที่ยอมรับในแต่ละประเทศ และการแสดงสกุลเงินได้หลายสกุล ซึ่งการใช้กลยุทธ์นี้จะสร้าง Personalized Experience ให้กับลูกค้าในท้องถิ่น นอกจากนี้ เว็บไซต์ของธุรกิจควรเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO รวมทั้งการโหลดหน้าเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วเพื่อสร้าง User Experience ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน ไปจนถึงการใช้ Chat bot ที่มีเทคโนโลยี AI สำหรับการพัฒนาการบริการลูกค้าเพื่อให้ธุรกิจอยู่เหนือคู่แข่ง

ธุรกิจ e-Commerce มีการพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานและเหมาะสมที่สุดมาใช้งานจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จของการทำธุรกิจออนไลน์ เช่น การใช้ระบบการจัดการสินค้าคงคลัง ระบบการจัดการคำสั่งซื้อ ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล และระบบบริการลูกค้า รวมทั้งควรเชื่อมต่อระบบทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่น

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตของตลาด FMCG สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของแบรนด์ใหญ่ๆ ทั้งยังมีทรัพยากรมากมายรองรับผู้ประกอบการในท้องถิ่น พบกับโลกของการประกอบธุรกิจและขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเรากันว่ามีโอกาส ความท้าทาย และตัวช่วยบริการการนำเข้าสินค้า - ส่งออกสินค้าอะไรบ้าง ที่จะคอยสนับสนุนการประกอบธุรกิจในแถบนี้

อ่านเพิ่มเติม : โอกาสและความท้าทายของสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคอาเซียน

ในปัจจุบันทุกอย่างมีการดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า จะต้องทำบางอย่างเพื่อให้โดดเด่นกว่าคู่แข่งจนเข้าได้ไปอยู่ในสายตาลูกค้า หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ Logistics ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดูแลสินค้าคงคลัง สถานที่ในการจัดเก็บสินค้า การบรรจุหีบห่อ ไปจนถึงการขนส่งสินค้าตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงมือผู้รับปลายทาง โดยธุรกิจจะต้องคำนึงถึงระยะเวลาและต้นทุนในการขนส่งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ Logistics ยังเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจด้วยมาตรฐานระดับสูงของการนำเข้าและส่งออกที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางให้กับลูกค้า

แนวทางปฏิบัติในการจัดการ Logistics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า :

ไม่ว่าจะเป็น Supplier, การขนส่ง หรือบริการด้านศุลกากร เนื่องจากในภาคการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า ความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดีในระยะยาวระหว่างส่วนต่างๆ ใน Supply Chain เป็นสิ่งสำคัญและสามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ช่วยให้ธุรกิจรับประกันการส่งมอบสินค้าที่อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าปลายทาง

การค้าระหว่างประเทศเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงโดยปกติ เนื่องจากต้องรับผิดชอบหลายอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การค้นหาสินค้าที่เหมาะสมในราคาที่ดีที่สุด ซึ่งจะต้องส่งมอบถึงปลายทางในขณะที่รับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ค่าขนส่ง ประกันภัย ฯลฯ ธุรกิจจึงต้องกำหนดกระบวนการจัด Suppy Chain แบบครบวงจรให้มีความแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

พิธีการศุลกากรเป็นสิ่งที่จัดการได้ยากที่สุดในกระบวนการจัดส่ง เนื่องจากมีบางปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของธุรกิจ หากเกิดข้อผิดพลาดอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เช่น การระงับสินค้า การส่งของกลับประเทศต้นทาง หรือการเสียค่าปรับ แม้ว่าธุรกิจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงปัจจัยภายนอกได้แต่ยังสามารถให้ความสนใจกับนโยบายและ Dynamic ของประเทศที่ธุรกิจมีการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ธุรกิจจำเป็นต้องทราบถึงความสำคัญของเอกสารด้าน Logistics จัดเก็บและรวบรวมเอกสารอย่างเป็นระเบียบตามคำสั่งซื้อ เพื่อให้สามารถส่งต่อได้อย่างรวดเร็วหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือลูกค้าจำเป็นต้องใช้งาน ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลา หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหากเอกสารแสดงข้อมูลที่สอดคล้องกัน

แนะนำให้รับคำปรึกษาจาก Freight forwarder หรือ Customs Broker เพื่อดำเนินการตามความเหมาะสมของธุรกิจ

• การจัดการการขนส่ง
• การจัดการคลังสินค้า
• การบรรจุสินค้า
• การจัดการตู้คอนเทนเนอร์

SCGJWD มุ่งเน้นการให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร เป็น One Stop Logistics Provider โดยเฉพาะบริการการนำเข้าสินค้าและส่งออกสินค้า SCGJWD ได้สร้างศูนย์บริการส่งออก ภายใต้ชื่อว่า Export Service Center (ESC) ซึ่งให้บริการลูกค้าทั้งในเครือเอสซีจีและลูกค้านอกเครือเอสซีจี

• การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
• การดำเนินพิธีการศุลกากรและการให้คำแนะนำ
• การจัดทำเอกสารสำหรับการนำเข้าส่งออก

SCGJWD Logistics เป็นบริษัทผู้ให้บริการการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ แบบครบวงจรทั้ง Sea Freight, Air Freight, Transportation พิธีการศุลกากร และการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าด้วยราคาที่คุ้มค่า ภายใต้การจัดการการขนส่งแบบมืออาชีพ ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าถึงจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และ ครบถ้วน ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพและประสบการณ์ จะทำให้ระบบโลจิสติกส์ของลูกค้าดำเนินการไปได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เรายังให้บริการด้านการจองเรือ เดินพิธีการศุลการกร สิทธิประโยชน์ต่างๆ การบรรจุสินค้าตามความต้องการลูกค้า

Logistical follow-up ที่ดีในธุรกิจที่มีการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า คือ การรับประกันความพึงพอใจของลูกค้า และการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงาน นอกจากนี้การ follow-up ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น สินค้าติดอยู่ที่ท่าเรือเพราะมีปัญหาพิธีการศุลกากร ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของธุรกิจ

สนใจบริการการนำเข้าสินค้า-ส่งออกสินค้า คลิก หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD