ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด และต้องเผชิญกับความท้าทายมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องรับมือและปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวให้นำเทรนด์ หรือการเพิ่มโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อช่วยให้ธุรกิจดำเนินและเติบโตได้อย่างไม่สะดุด อย่างในปัจจุบันที่ธุรกิจอสังหาฯ ต่างเริ่มขยับขยายเพิ่มบริการและผลิตภัณฑ์ หรือมุ่งหน้าสร้างพันธมิตรที่ช่วยเพิ่มยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น บริการด้านการเงิน บริการขนย้ายของ บริการเช่าซื้อ ฯลฯ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้คนอยากมีบ้าน และเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจ
แนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ ปี 2024
รายงานจาก DDproperty Thailand Property Market Outlook 2024 คาดว่าอสังหาฯ จะเติบโตได้ราว 5-10% จากปีก่อนหน้า โดยแนวโน้มของธุรกิจอสังหาฯ ปี 2024 ที่ผู้ประกอบการควรจับตามอง และวางแผนกลยุทธ์ที่สอดคล้อง มีดังนี้
1. Sustainability เทรนด์ที่อยู่อาศัยรักษ์โลก
จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ทำให้ผู้บริโภคเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยผลสำรวจของ DDproperty Thailand พบว่า ผู้บริโภคถึง 91% ยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และกว่า 71% ต้องการพื้นที่สำหรับต้นไม้ฟอกอากาศ และวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยโดยหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหา PM2.5 และไม่ใช่แค่เรื่องของอสังหาฯ เท่านั้น แต่รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การบริการของผู้ประกอบการ อย่างบริการขนย้ายของ บริการย้ายบ้าน ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ทั้งการใช้รถยนต์พลังงานสะอาด หรือการวางแผนการขนส่งเพื่อย่นระยะเส้นทาง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุของสภาวะโลกร้อน เป็นต้น
2. Generation rent คนรุ่นใหม่เน้นเช่ามากกว่าซื้อ
มุมมองการเป็นเจ้าของบ้านของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป เพราะไม่ต้องการภาระผูกพันในระยะยาวจากการซื้อบ้าน เกิดพฤติกรรมการเช่ามากกว่าซื้อ ทำให้การเช่าบ้านเป็นทางเลือกแรก เพราะยืดหยุ่นและคล่องตัวกว่า ในกรณีที่ต้องการโยกย้ายในอนาคต และประหยัดรายจ่ายมากกว่า ดังนั้น ในปีนี้ นอกจากธุรกิจอสังหาฯ จะต้องโฟกัสที่คุณภาพของที่อยู่อาศัยแล้ว การเสริมบริการเพิ่มเติมก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการปิดการขายให้กับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ อย่างผู้ประกอบการอสังหาฯ ประเภทคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะคอนโดขนาดเล็กที่มีพื้นที่เก็บของไม่มากนัก อาจเพิ่มบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า ที่เข้าถึงสะดวกและได้มาตรฐาน ประกอบกับมีสาขาที่อยู่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยเดินทางได้สะดวก หรือบริการรื้อถอน ขนส่งพร้อมประกอบที่ รองรับความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมหลายกลุ่มสินค้า เช่น สินค้าขนาดใหญ่ สินค้ามูลค่าสูง สินค้าที่อ่อนไหวต่ออุณหภูมิ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการย้ายที่อยู่ให้กับผู้บริโภค และสร้างความเเตกต่างของธุรกิจอสังหาฯของคุณ กับคู่เเข่งรายอื่นๆ ในตลาด
3. Pet Friendly เพราะสัตว์เลี้ยงคือสมาชิกสำคัญ
แนวโน้มคนไทยครองตัวเป็นโสดมากขึ้น และเลือกเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนยามเหงาแทนการมีลูก การออกแบบพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนเหมาะสมทั้งในบ้าน และพื้นที่ส่วนกลางของการใช้ชีวิตระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงจะช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นี้ได้มากขึ้น
กลยุทธ์เสริมความแกร่งให้ธุรกิจอสังหาฯ
จากแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ข้างต้น จะเห็นได้ว่า การเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ นอกจากต้องอาศัยปัจจัยภายนอกอย่างแรงขับเคลื่อนจากภาครัฐ และสถาบันการเงินแล้ว ยังจำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และติดตามเทรนด์หรือแนวโน้มของตลาด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้อง ดึงดูดใจผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
1. สร้างบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ในยุคที่อำนาจเป็นของผู้บริโภค นอกจากแข่งขันในเรื่องราคาและวัสดุที่มีคุณภาพแล้ว เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจอสังหาฯ ก็จำเป็นจะต้องปรับตัวและสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อก้าวเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจของผู้บริโภคให้ได้ด้วย เช่น การสร้างบ้านด้วยแนวคิด Universal Design เพื่อให้ทุกคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุ สามารถใช้ประโยชน์จากทุกพื้นที่ในบ้านได้อย่างสะดวกสบายไร้อุปสรรค เพราะประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว และผู้บริโภคมองหาบ้านที่ตอบโจทย์คนทุกช่วงวัยให้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายที่สุด หรือการสร้างบ้านด้วยแนวคิด Pet Friendly โดยการจัดแบ่งพื้นที่การอยู่อาศัยระหว่างคนกับสัตว์อย่างลงตัว รวมไปถึงการมีสวัสดิการหรือพื้นที่ส่วนกลางที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของทั้งคนและสัตว์ ก็เป็นอีกโจทย์ที่ผู้ประกอบการควรหยิบยกมาพิจารณาในการออกแบบบ้าน เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสัตว์ เป็นต้น
2. ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน วิเคราะห์ได้แม่นยำ และช่วยแก้ไขปัญหา ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานที่เกิดจากคน (Human Error) ตั้งแต่การจัดสรรที่ดิน ไปจนถึงบริการหลังการขาย เช่น การใช้ AI ในการจดจำ จัดการ วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูล นำไปสู่การต่อยอดกลยุทธ์ด้านการตลาด เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น หรือการใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง (Immersive Technology) ช่วยในการออกแบบผลงาน และจำลองโลกเสมือนจริง เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์การของสินค้าได้ชัดเจนมากขึ้น ก่อนตัดสินใจเข้าชมที่หน้าโครงการ หรือแม้แต่การใช้เทคโนโลยีที่มาช่วยเสริมประสิทธิภาพในบริการขนย้ายของสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการย้ายเข้าบ้านใหม่ เพื่อช่วยติดตามสถานะการขนย้าย สร้างความพึงพอใจให้ผู้บริโภค
3. เพิ่มบริการต่าง ๆ ให้ผู้บริโภคเข้าถึงการซื้อบ้านมากขึ้น
อุปสรรคที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงการซื้อบ้านได้ยากมีหลายข้อด้วยกัน ดังนั้น การออกผลิตภัณฑ์หรือสร้างบริการที่เป็นโซลูชันในการอุดช่องว่างของปัญหาเหล่านั้น จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการซื้อบ้านและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และบริการต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นให้กับธุรกิจอสังหาฯ ของคุณได้ด้วย เช่น
- บริการเช่าซื้อบ้าน เพื่อให้คนที่ต้องการมีบ้าน สามารถมีบ้านได้ง่ายขึ้น จากปัญหาที่ราคาบ้านขยับตัวสูงขึ้น และสถาบันการเงินมีกฏเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น
- บริการขนย้ายของ สำหรับการขนย้ายเข้าบ้านใหม่ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้า สร้างประสบการณ์ที่ดีซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณ มีความแตกต่าง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่ง
- บริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า สำหรับผู้ที่อาศัยในคอนโดฯ หรือบ้านที่มีพื้นที่เก็บของน้อย หรือผู้บริโภคที่ต้องการความปลอดภัยในการจัดเก็บสิ่งของ
4. สร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ยกระดับการบริการ
การเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจจำเป็นต้องสร้างพันธมิตร ไม่ใช่สร้างศัตรู เพื่อต่อยอดการบริการและสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจ แต่การเลือกบริษัทที่เข้ามาเป็นพันธมิตรก็สำคัญ จำเป็นจะต้องพิจารณาให้รอบด้าน และดูถึงความเหมาะสม ว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจอสังหาฯ ของคุณได้หรือไม่ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ธุรกิจอสังหาฯ ยังสามารถต่อยอดผ่านบริการเสริมต่าง ๆ ได้ เช่น การเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้า เพื่อขยายขอบเขตการบริการให้ครอบคลุม อำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค และกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น
ทำไมบริการขนย้ายของถึงจำเป็นต่อธุรกิจอสังหาฯ
บริการขนย้ายของ เป็นบริการเสริมที่ต่อยอดให้กับธุรกิจ ช่วยสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นให้กับธุรกิจอสังหาฯ ของคุณ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุผลที่บริการขนย้ายของจำเป็นต่อธุรกิจอสังหาฯ ดังนี้
- ช่วยเสริมความแตกต่างและความครบวงจรให้กับธุรกิจ
- ช่วยเสริมอำนาจการแข่งขันในตลาด
- ช่วยอำนวยความสะดวก ลดความยุ่งยากให้กับลูกค้าที่ซื้อหรือเช่าบ้านในโครงการของคุณ
- ยกระดับการบริการ สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
สำหรับผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสธุรกิจ ด้วยการเพิ่มบริการขนย้ายของ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า คุณไม่จำเป็นจะต้องนำเงินก้อนมาลงทุนเอง เพราะปัจจุบันมีผู้ให้บริการขนย้ายของหลายเจ้า เพียงแต่ต้องเลือกพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพ และมีโซลูชันเหมาะสมกับความต้องการ เพื่อมาช่วยเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจของคุณ
SCGJWD เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ และบริการขนย้ายของแบบครบวงจร ครอบคลุมการขนย้ายทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าขนาดใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ บริการติดตั้ง ประกอบและรื้อถอนสินค้า (White Glove Services) ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ด้วยประสบการณ์มากกว่า 40 ปี เจ้าหน้าที่ได้รับการอบรมตามมาตรฐาน การรับประกันสินค้าทุกขั้นตอน และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างความมั่นใจให้ในทุกการขนส่ง เช่น การ tracking สินค้า เพื่อตรวจสอบสถานะการจัดส่งแบบเรียไทม์ หรือ การใช้เทคโนโลยีจัดการเส้นทาง เพื่อลดระยะทางการขนส่ง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นในช่วยเวลาเร่งด่วน ช่วยให้การขนส่งแต่ละครั้งคุ้มค่ามากที่สุด ลดต้นทุนค่าน้ำมัน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้ของรถยนต์ด้วย เป็นต้น นอกจากนี้เรายังมีบริการห้องเก็บของส่วนตัวให้เช่า ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของคุณในขณะที่บ้านยังตกแต่งไม่แล้วเสร็จ ซึ่งก็เป็นอีกบริการที่จะสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจอสังหาฯ ของคุณได้ ด้วยบริการทั้งหมดของเราเหล่านี้ทำให้คุณสามารถอุ่นใจได้ว่าทุกการขนส่งกับ SCGJWD สินค้าจะถึงปลายทางอย่างปลอดภัย คุ้มค่า และสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าของคุณ
บริการขนย้ายอื่น ๆ จาก SCGJWD
- บริการขนย้ายสำนักงาน
- บริการขนย้ายเครื่องจักรกลโรงงาน
- บริการขนย้ายสำหรับงานแสดงสินค้า