อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก็จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่กันแล้ว และแน่นอนว่าเมื่อเริ่มต้นปีใหม่ทีไร ก็มักจะมาพร้อมกับเทรนด์ใหม่ ๆ ด้วยเสมอ ซึ่งไม่ใช่แค่เทรนด์ในเรื่องของแฟชั่น งานศิลปะ หรือการตลาดเท่านั้น แต่ในแวดวงของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เอง ก็มีการนำเทรนด์และนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน เรียกว่าได้เหล่าผู้ประกอบการและนักธุรกิจมากมายต่างเฝ้าคอยและจับตาถึงเรื่องนี้แทบจะทุกปี เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็วในรอบสองปีที่ผ่านมา แต่ถึงแม้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายของโรคระบาดอย่างโควิด-19 แต่ธุรกิจโลจิสติกส์ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เราต่างต้องเผชิญกับความต้องการที่มีความหลากหลาย รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะทำให้วงการโลจิสติกส์เกิดการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เรามาดูกันว่า 6 เทรนด์โลจิสติกส์ที่น่าจับตามองในปี 2022 ที่จะมาช่วยตอบโจทย์ระบบการจัดการคลังสินค้า ระบบบริการขนส่งและติตตั้งของชิ้นใหญ่ ระบบบริการขนส่งระหว่างประเทศ ฯลฯ นั้นมีอะไรบ้าง?

1. การเก็บข้อมูลจำนวนมาก (Big Data)
ในยุคที่ขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีที่ระบบดิจิทัลมีส่วนสำคัญต่อการทำงาน การเก็บข้อมูลจำนวนมากหรือ Big Data จึงเป็นเรื่องสำคัญต่อทุกองค์กร เช่นเดียวกับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับด้านโลจิสติกส์ เพราะการเก็บข้อมูลของบริษัท ข้อมูลการติดต่อลูกค้า หรือข้อมูลประเมินผลการดำเนินงานต่าง ๆ ในแต่ละวัน จะสามารถช่วยให้องค์กรนำข้อมูลเหล่านั้นไปประมวลผล และวิเคราะห์ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรหรือบริษัทต่าง ๆ เห็นภาพการทำงานได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้เกิดการบริหารคลังสินค้าที่เป็นระบบ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถคำนวณปริมาณงานขนส่ง หรือคำนวนเส้นทางการขนส่ง เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า และทราบความต้องการของตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
2. ความก้าวหน้าทางดิจิทัล (Digital Professionalization)
การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทางดิจิทัล ส่งผลต่อความก้าวหน้าทางธุรกิจในด้านการขนส่งและโลจิสติกส์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้องค์กรเก็บข้อมูลภายในคลังสินค้าได้มากขึ้นในระยะเวลาที่รวดเร็ว นอกจากนี้การนำเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้กับการทำงานก็จะช่วยให้องค์กรเกิดการพัฒนาและสามารถต่อยอดไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างเช่น การรู้ถึงเทรนด์ดิจิทัลที่กำลังมาแรง และมีความเชื่อมโยงกับการทำธุรกิจโลจิสติสก์ในปี 2022 เพื่อนำมาปรับและใช้งานให้สอดคล้องกับการทำงานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบ Cloud Computing, Web 3.0 และ Metaverse ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่สามารถนำมาใช้ในการวางแผนงาน รวมถึงยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองหากลยุทธ์ทางการตลาดจากเทรนด์เหล่านี้ และแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะสามารถช่วยให้การทำงานด้านอุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงระบบต่าง ๆ ด้านล่างดังต่อไปนี้
3. ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์อุตสาหกรรม (Automation and Robotization)
คลังสินค้าอัจฉริยะอย่าง Smart Warehouse ก็เป็นอีกหนึ่งระบบที่ต่อยอดฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีมาควบคุมระบบการจัดการคลังสินค้าภายในคลังด้วยระบบอัตโนมัติ เช่น การใช้งานหุ่นยนต์, การใช้รถ AGV Forklift แบบไร้คนขับ พร้อมนำทางด้วยระบบเซนเซอร์ หรือการใช้รถเข็นอัตโนมัติติดตามพนักงาน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในการหยิบสินค้าภายในคลัง ซึ่งระบบอัตโนมัติเหล่านี้ จะช่วยลดขั้นตอนและความซับซ้อนในการดำเนินการ รวมถึงเพิ่มความแม่นยำ และลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดต่าง ๆ ขณะบริหารคลังสินค้าได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ระบบ Smart Warehouse นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับกับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นการบริหารคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องลำดับต้น ๆ ที่ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่

4. ระบบการเก็บข้อมูลกลาง (Blockchain)
ระบบการจัดเก็บข้อมูลอย่าง Blockchain ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่พร้อมตอบโจทย์โลกโลจิสติกส์แห่งอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยระบบ Blockchain จะเป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบ Digital Transaction ที่อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลได้เท่านั้น รวมถึงยังสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นเจ้าของและมีสิทธิ์ในข้อมูลนั้น ๆ โดยไม่ต้องผ่านคนกลางหรือบุคคลที่สามในการคอยตรวจสอบการดำเนินงานต่าง ๆ จึงมีทั้งความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความยั่งยืนของฐานข้อมูลภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถือว่าเป็นการสร้างมาตรฐานให้ระบบการจัดการคลังสินค้าให้ดีขึ้น รวมถึงช่วยให้การจัดการข้อมูลด้านบริการขนส่งระหว่างประเทศแก่ลูกค้าและคู่ค้าเป็นระบบมากยิ่งขึ้นด้วย
5. ระบบโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly Logistics)
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวล้ำแค่ไหน การให้ความสำคัญกับการจัดการระบบโลจิสติกส์ต่าง ๆ ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นสิ่งที่หลาย ๆ องค์กรยังมุ่งเน้นอยู่ตลอด ในการบริหารจัดการการขนส่งให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาวะโลกร้อนให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนการขนส่ง การเคลื่อนย้าย หรือการเก็บ แพ็ค ส่งสินค้าที่เน้นใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
6. โปรแกรมในการเก็บข้อมูลของลูกค้า (Customer Data Platform)
อีกหนึ่งเทคโลยีซอฟต์แวร์ที่ช่วยสร้างฐานข้อมูลลูกค้าให้กับองค์กรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าข้อมูลจะมาจากทางออฟไลน์หรือออนไลน์ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถจัดเก็บข้อมูลการขนส่ง การบริหารคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
SCG Logistics ไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะเราดำเนินธุรกิจด้วยระบบเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ที่ทันสมัยจาก ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งภายในประเทศ บริการขนส่งระหว่างประเทศ บริการคลังสินค้า บริการ Fulfillment บริการโซลูชั่นทางธุรกิจต่าง ๆ อีกหลากหลาย ที่พร้อมจะทำให้คุณมั่นใจว่าองค์กรของคุณจะเติบโตและก้าวทันโลกเทคโนโลยีแห่งอนาคต
สอบถามรายละเอียดบริการ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD
อ้างอิงรูปภาพ และ บทความจาก : SCG Logistics, looper.mx, linkedin.com, hivelife.com