พนักงานกำลังเสิร์ฟอาหาร

กลยุทธ์จัดการร้านอาหารพร้อมเทคนิคบริหาร Supply Chain หลังบ้าน ให้ได้กำไร พร้อมมัดใจลูกค้าได้อยู่หมัด

เจ้าของธุรกิจแทบทุกคน เมื่อตัดสินใจลงทุนในธุรกิจใดๆ แล้ว เป้าหมายคือการได้กำไรจากสิ่งที่ลงทุนไป เช่นเดียวกับธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งปัจจุบันถือว่ามีการแข่งขันสูง และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต ดังนั้น การจะดำเนินธุรกิจร้านอาหารให้สามารถอยู่รอด ไปจนถึงสร้างกำไรให้เจ้าของได้ จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในด้านการบริหารจัดการร้านที่ดี ทั้งเรื่องการวางแผนงบประมาณ การบริการ การเลือกบริการขนส่งเช่น การขนส่งควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้วัตถุดิบและอาหารสดใหม่อยู่เสมอ เป็นต้น

บริหารจัดการร้านอาหารอย่างไร ให้ได้ทั้งกำไรและลูกค้าประจำ

ปี 2566 นี้ เป็นปีที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้มองไว้ว่า มูลค่ารวมของธุรกิจร้านอาหารจะอยู่ที่ราว 4.18-4.25 แสนล้านบาท นับว่าขยายตัวถึง 2.7% - 4.5% เเละในปี 2567 เติบโต 11% โดยมีที่มาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มเบาบางลง และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ธุรกิจร้านอาหารก็นับว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะร้านอาหารที่ให้บริการแบบ Full Service ที่นอกจากจะต้องแบกรับต้นทุนต่อจานที่สูงแล้ว ยังต้องมองหาวิธีที่จะรักษาฐานลูกค้าเก่า พร้อมสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อทำกำไรให้ได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

บทความนี้ขอชวนผู้ประกอบการร้านอาหารมารู้จักกับกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการร้านอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรและมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด

10 กลยุทธ์บริหารจัดการร้านอาหารที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องรู้

1. วางแผนงบประมาณให้รัดกุม

ในการที่จะบริหารจัดการร้านอาหารให้ได้กำไร สิ่งแรกที่ต้องใส่ใจก็คือเรื่องของการวางแผนงบประมาณและต้นทุน เพราะสิ่งนี้เองที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าร้านของเราจะได้กำไรหรือขาดทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าวัตถุดิบ ค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ต้องนำมาคำนวณให้ครบ โดยเฉพาะเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อวัตถุดิบอาหารสด ที่เราสามารถควบคุมได้โดยการเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และมาพร้อมการบริการแบบครบวงจร ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เราสามารถบริหารงบประมาณได้ดีแล้ว ยังป้องกันปัญหาเรื่องของวัตถุดิบไม่เพียงพอหรือเหลือทิ้ง ที่จะส่งผลถึงต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

2. ควบคุมคุณภาพของอาหารให้ได้มาตรฐาน

เมื่อทำธุรกิจร้านอาหาร แน่นอนว่าสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจได้ก็คือเรื่องของ “คุณภาพอาหาร” โดยเคล็ดลับก็คือการให้ความสำคัญกับกระบวนการขนส่งวัตถุดิบ ด้วยการเลือกการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ เพราะวัตถุดิบที่ใช้ในร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ที่ต้องอาศัยการรักษาอุณหภูมิและความชื้นให้คงที่ เพื่อคงความสดใหม่ ก่อนปรุงอาหาร ซึ่งการขนส่งควบคุมอุณหภูมิจะช่วยรักษาคุณภาพของอาหารในทุก ๆ จานได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่อง “สูตรอาหาร” เพราะเมื่อพ่อครัวหรือแม่ครัวทำอาหารไปนาน ๆ จะเริ่มเกิดความเคยชิน จนเผลอปรุงรสตามใจโดยไม่รู้ตัว และบางครั้งยังเกิดเหตุการณ์ที่พ่อครัวหรือแม่ครัวประจำไม่อยู่ หรืออยู่ในช่วงรับพนักงานเข้ามาใหม่ ทำให้รสชาติอาหารเริ่มเปลี่ยน ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการมีสูตรที่ได้มาตรฐาน บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อช่วยรักษารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านไว้อยู่เสมอ

3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

นอกจากรสชาติแล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์ประจำร้านอาหารที่จะช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่ และดึงดูดลูกค้าเก่า ๆ ให้กลับมาเป็นลูกค้าประจำ ก็คือการมีระบบ Membership และการจัดโปรโมชันอย่างสม่ำเสมอ เช่น การสมัครสมาชิก เพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดสำหรับการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ การได้รับเมนูพิเศษเมื่อถึงวันเกิด หรือได้อาหารชุดพรีเมียมเฉพาะสมาชิก วิธีเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ และอยากจะกลับมาอุดหนุนซ้ำอย่างต่อเนื่อง

4. พัฒนาเรื่องการให้บริการอยู่เสมอ

ถึงแม้อาหารจะรสชาติดีแค่ไหน แต่หากเจอกับพนักงานที่ไม่ใส่ใจบริการ ก็ไม่อาจทำให้ลูกค้ากลับมาอุดหนุนได้ ดังนั้นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามหากอยากบริหารจัดการร้านอาหารให้ได้กำไร ก็คือการหมั่นพัฒนาเรื่องการให้บริการ ด้วยการรับฟัง Feedback จากลูกค้า ซึ่งอาจทำเป็นโปรโมชัน แนะนำ Feedback แลกกับเครื่องดื่มหรือเมนูของทานเล่นฟรี จากนั้นจึงนำ Feedback ที่ได้ไปพัฒนาการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น รับรองว่ากลยุทธ์นี้จะช่วยให้ร้านของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

5. เลือกโลเคชันที่ใช่

หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ร้านอาหารหลาย ๆ ร้านไม่อาจไปต่อได้ ก็คือเรื่องของโลเคชันหรือทำเล ดังนั้นหากต้องการที่จะขยับขยายสาขา แนะนำว่าให้ศึกษาหาข้อมูลเรื่องของทำเลอย่างละเอียด เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายและตรงจุดมากขึ้น เช่น หากเป็นร้านอาหารที่ต้องการเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว ก็ควรเลือกทำเลที่เดินทางสะดวก เข้าถึงง่าย และมีที่จอดรถให้บริการ เป็นต้น

6. คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัย

เปิดร้านอาหารทั้งที แค่อร่อยอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมาพร้อมกับความสะอาดและถูกสุขอนามัย เพราะคงไม่มีใครอยากได้ข่าวลูกค้าล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลเพราะอาหารไม่สะอาด ดังนั้นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทุกร้านต้องยึดไว้เป็นหลักในการดำเนินธุรกิจ ก็คือมาตรการด้านความสะอาดที่รัดกุม เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า ที่จะนำมาซึ่งภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีของร้านตามไปด้วย นอกจากนี้การใช้บริการขนส่งวัตถุดิบด้วยการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ ที่มีมาตรฐานเพื่อคงความสดใหม่ เเละคุณภาพของอาหารเป็นอีกหนึ่งในตัวช่วยเสริม

7. ตั้งราคาให้เหมาะสม

การตั้งราคา คือปัญหาหลักที่หลาย ๆ ร้านต้องเจอ โดยเฉพาะร้านเปิดใหม่ที่กังวลว่าควรตั้งราคาอย่างไรให้ลูกค้าพอใจแถมไม่ขาดทุน แนะนำว่าอันดับแรกให้เริ่มจากการคำนวณต้นทุนต่าง ๆ ให้แม่นยำ ทั้งต้นทุนหลัก ๆ อย่างค่าวัตถุดิบ และต้นทุนแฝงอย่างค่าน้ำมันในการเดินทางไปซื้อ ซึ่งในส่วนนี้ขอกระซิบว่าการเลือกสั่งวัตถุดิบให้มาส่งที่ร้านอาจคุ้มค่ามากกว่า จากนั้นให้เราศึกษาราคาของร้านในทำเลเดียวกัน เพื่อไม่ให้ราคาโดดเกินไป สุดท้ายก็คือจัดปริมาณอาหารแต่ละจานให้เหมาะสม เท่านี้ก็จะช่วยให้คุณสามารถตั้งราคาได้ถูกใจและทำกำไรได้

8. มีการประชาสัมพันธ์อยู่เสมอ

อีกหนึ่งกลยุทธ์จัดการร้านอาหารที่ไม่ว่าจะเป็นร้านเปิดใหม่หรือร้านเก่าแก่ก็ไม่ควรมองข้าม ก็คือการประชาสัมพันธ์ร้านอยู่เป็นประจำ ซึ่งทุกวันนี้เราก็สามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ทั้งการตั้งป้ายโฆษณา แจกใบปลิว และประชาสัมพันธ์ใน Social Media เพื่อให้ลูกค้าใหม่รู้จัก และลูกค้าเก่าสามารถจดจำร้านของเราได้ โดยเราสามารถประชาสัมพันธ์ร้านควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชัน เพื่อช่วยให้ลูกค้าสนใจมากขึ้น เช่น โปรโมชันเช็กอินร้านรับส่วนลด หรือ โปรโมชันรีวิวร้านแลกรับอาหารฟรี

9. มีวิธีการจัดการกับวัตถุดิบเหลือใช้ที่ดี

รู้หรือไม่ หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ร้านอาหารขาดทุนโดยไม่รู้ตัว ก็คือปัญหา “วัตถุดิบเหลือใช้” ดังนั้นจึงต้องมีระบบการจัดการกับวัตถุดิบเหลือใช้ที่มีประสิทธิภาพ ผู้ให้บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิพร้อมคลังสินค้าเป็นอีกหนึ่งในตัวช่วยที่สำคัญ ช่วยลดต้นทุนค่าจัดส่งวัตถุดิบ รักษามาตรฐานความสดใหม่ เพื่อลดภาระต้นทุนและช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับร้าน เช่น การบริหารจัดการสต๊อกที่ดี ไม่ให้มีวัตถุดิบเหลือทิ้งหรือใช้ไม่ทันจนเน่าเสีย รวมถึงการนำวัตถุดิบที่เหลือไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น นำชิ้นส่วนผักที่ถูกตัดแต่งไปใช้ตกแต่งในจานอื่น ๆ หรือ นำวัตถุดิบที่เหลือในแต่ละวันไปปรุงเป็นเมนูใหม่ และขายในราคาพิเศษ

10. นำเสนอการจัดส่งแบบ Delivery

นอกเหนือไปจากการให้บริการในร้าน อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ร้านทำกำไรได้มากขึ้น ก็คือบริการส่งอาหารแบบ Delivery เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น โดยหัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้ก็คือ การเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มาพร้อมบริการคลังสินค้าออนไลน์ และมีบริการจัดส่งสินค้าถึงปลายทาง เพื่อให้ลูกค้าได้รับอาหารที่สดใหม่ ภายในเวลาที่ต้องการ นอกจากจะช่วยสร้างความประทับใจแล้ว ยังช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่นกว่าร้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ขอแนะนำ บริการ Food Chain Solutions จาก SCGJWD โซลูชันที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับสินค้าประเภทอาหาร เพื่อวัตถุดิบที่สด สะอาด ตลอดจนกระบวนการขนส่ง โดยเป็นบริการครบวงจรแบบ One Stop Service ตั้งแต่การนำเข้า การจัดการคลังสินค้า และการจัดส่งสินค้า ด้วยการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ คุณภาพมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมงบประมาณในการจัดการวัตถุดิบสำหรับร้านอาหาร พร้อมสามารถคงคุณภาพของอาหารได้ทุกจาน ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ นอกจากนี้ บริการ Food Chain Solutions จาก SCGJWD ยังเป็นบริการที่สนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ลดการใช้พลังงาน ลดการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการทำธุรกิจที่ยั่งยืน

สนใจบริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิเเละคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ คลิก หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่ เบอร์ 02-710-4000, 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD


ที่มา :
www.kasikornresearch.com
www.เพื่อนแท้ร้านอาหาร.com
www.torpenguin.com
www.unileverfoodsolutions.co.th
www.marketeeronline.co

Service Recommended