หุ่นยนต์ส่งสินค้าในคลัง

4 เทรนด์คลังสินค้า ปี 2021

หลังจากการระบาดของโรค คลังสินค้าต้องมีการปรับกระบวนการทำงานครั้งใหญ่ ยิ่งยอดขายของออนไลน์พุ่งสูงขึ้น การจัดการคลังสินค้าจำเป็นต้องมองหา Practice และ เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทัน รวมถึงความยืดหยุ่นในการเผชิญกับความต้องการที่ผันผวน ถือเป็นสิ่งสำคัญของคลังสินค้าสมัยใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการประยุกต์เอาระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ เพื่อให้เกิดการลดต้นทุน และ การเพิ่มประสิทธิภาพ ฉะนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับเทรนด์คลังสินค้า ปี 2021 กันครับ

เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นใน Supply Chain คลังสินค้าจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งต่อไปนี้ 

  1. คลังสินค้าตามความต้องการ ( On Demand Warehouse )
  2. เพิ่มระบบอัตโนมัติ
  3. ใช้ Internet of Thing เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และ ติดตามสถานะสินค้าได้ Real-Time
  4. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

มาทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเทรนด์คลังสินค้า ปี 2021 กันได้เลยครับ   

1. คลังสินค้าตามความต้องการช่วยเพิ่มความจุในการจัดเก็บสินค้า (On Demand Warehouse)

Covid-19 ส่งผลให้การซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม eCommerce พุ่งสูงขึ้นมาก ทำให้พื้นที่ในคลังสินค้าไม่พอในชั่วขณะหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ต้นทุนก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจาก

  • ความต้องขอบตลาด มีมากกว่าปริมาณสินค้าในตลาด ( Demand > Supply )
  • กระบวนการภายในคลังสินค้ามีความซับซ้อน เนื่องจาก Covid-19 และ การคืนสินค้า
  • ธุรกิจมองหาสถานที่ในการสต็อกสินค้าที่ใกล้กับลูกค้าปลายทาง เพื่อลดต้นทุน และ ระยะเวลาในการจัดส่งสินค้า

คลังสินค้าตามความต้องการ จึงกลายเป็นคลังสินค้าที่ธุรกิจต่างมองหาเพื่อเพิ่มความสามารถในการดำเนินธุรกิจ เปรียบเสมือน Airbnb สำหรับสินค้า ที่แชร์พื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งาน เปลี่ยนมาทำรายได้ เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการพื้นที่ในระยะสั้นมากกว่า

ยกตัวอย่างเช่น

The Port Authority ของ New York และ New Jersey (PANYNJ) ได้พัฒนาฐานข้อมูลของคลังสินค้าของตนเอง เพื่อดูว่าบริเวรไหนบ้างที่ไม่ได้ใช้งาน และ สามารถให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาเช่าใช้งานในระยะสั้นได้ โดยเฉพาะในช่วงพีคของการขาย หรือแม้แต่การแพร่ระบาดของ Covid-19 ก็ตาม ทำให้ธุรกิจสามารถรองรับความต้องการที่ผันผวนของลูกค้าได้ ในขณะเดียวกันก็ยังได้เงินพิเศษ จากการให้เช่าพื้นที่ในระยะสั้นอีก

2. ช่วงขาขึ้นของระบบอัตโนมัติ

Can machines do all the work? Fully automated warehouses are at least a decade away, but more steps in the supply chain are being handed over to automation.

เครื่องจักรสามารถทำงานทั้งหมดได้หรือไม่ ? คลังสินค้าที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างอัตโนมัติ อาจจะต้องรออีก 10 ปี แต่ทุกวันนี้ หลาย ๆ กระบวนการภายในคลังสินค้า ก็ได้มีการหยิบเอานวัตกรรม หรือ ระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้แล้ว เช่น กระบวนการคัดแยกสินค้า การเรียงพาเลท การใช้ AS/RS หรือ การใช้ Forklift แบบ AGV จะช่วยให้คลังสามารถเพิ่ม Throughput และ เก็บสินค้าได้มากขึ้น โดยไม่เสียประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

จากภาพตารางด้านล่าง จะเห็นว่า ระบบอัตโนมัติแบบไหนที่ถูกคาดการณ์ว่าจะได้รับความนิยมด้านการลงทุนในอีก 1-3 ปีข้างหน้า ( Published ใน Forbes ) : Source

trend of autonomouse technology in warehouse

SCG Logistics ได้มีการนำรถ AGV เข้ามาใช้ภายในคลังสินค้า โดยเริ่มใช้ที่ศูนย์กระจายสินค้าภาคกลาง หรือ Central Distribution Center เพื่อเพิ่มความเร็ว และ ความแม่นยำในการจัดการสินค้าได้ เนื่องจากศูนย์กระจายสินค้าภาคกลาง จะเน้นการให้บริการแบบ   Consolidate   ที่มีความซับซ้อนของการขนส่งและการจัดการคลังสินค้า ลูกค้าต้องการของที่รวดเร็ว และ ถูกต้อง

https://www.youtube.com/watch?v=0wuT9nwPw8o

3. สร้างความโปร่งใสในการขนส่งด้วย Internet of Things (IoT)

Inventory Visibility (รู้สถานะสินค้าคงคลัง) นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ในการจัดการคลังสินค้า หากมองในมุมเจ้าของธุรกิจ เราจะรู้ว่ามีพื้นที่ตรงไหนที่ว่างอยู่ สินค้าชนิดไหนใกล้จะหมด จะเป็นจะต้องสั่งมาสต็อกเพิ่ม หรือ สินค้าแต่ละชนิดเก็บไว้อยู่ตรงไหน ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้า แต่ถ้ามองในมุมลูกค้า การมี Visibility จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้ เพราะลูกค้าต้องการรู้ว่าสินค้าอยู่ที่ไหน หรือ อยู่ในกระบวนการใดของคลังสินค้า

Internet of Things คือเทคโนโลยีที่ทำให้คุณมองเห็นภาพรวมของสินค้าคงคลัง และ ความจุของคลังสินค้าได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งข้อดีของเทคโนโลยียี้ก็คือ การที่อุปกรณ์แต่ละอันสามารถส่งข้อมูลระหว่างกันได้แบบ real-time ฉะนั้นการที่เราใช้อุปกรณ์ IoT ในการขนส่ง ยังมีประโยชน์กับคุณในด้านอื่น ๆ อีก เช่น

  • การระบุปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิด หรือ กำลังเกิดขึ้นใน Supply Chain
  • ส่งเสริมการสื่อสารระหว่างคู่ค้าใน Supply Chain  
  • ลดการเกิดสินค้าสูญหาย หรือ เสียหาย
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และ อื่น ๆ

4. คลังสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Warehouse)

Green Warehouse นอกจากจะช่วยจะให้คุณตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปแล้ว คุณยังได้รับความชื่นชมจากลูกค้าอีกด้วย โดยในปัจจุบันเราได้เห็นคลังสินค้าหลาย ๆ แห่ง เริ่มปรับเปลี่ยนการใช้พลังไฟฟ้า หรือ กระบวนการทำงานต่าง ๆ ให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น เช่น

  • แผงโซล่าเซลล์
  • การใช้ระบบหลังคาแบบ Cool-Roof
  • Skylights
  • หรือใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการทำงาน

แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากจะส่งผลดีต่อบริษัทในด้านต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นที่ต้องการของตลาดด้วย เนื่องจากลูกค้าจะปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับค่านิยมมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า บริษัทที่ทำงานแบลเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะสามารถสร้างรายได้และความภักดีได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น SCG Logistics ได้มีการตรวจเช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถทำงานได้ปกติ ออกมาตรการการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ มีข้อกำหนดเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มงวด เป็นต้น

อ้างอิงบทความ และ รูปภาพจาก : Freepik.com, easyship.com, Forbes.com


Service Recommended