คลังสินค้า (Warehouse) หมายถึงอาคารที่ใช้เก็บรักษาหรือรับฝากสินค้าระหว่างรอการเคลื่อนย้ายเพื่อสนับสนุนการผลิต (กรณีจัดเก็บวัตถุดิบ ส่วนประกอบและชิ้นส่วนต่าง ๆ) และการกระจายสินค้า (กรณีจัดเก็บสินค้าสำเร็จรูป) ให้กับผู้เกี่ยวข้องในระบบโลจิสติกส์ ห่วงโซ่อุปทานและลูกค้า เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยผลักดันการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการประกอบธุรกิจด้านการผลิตสินค้า หรือธุรกิจด้านนำเข้าส่ง-ออกที่ซื้อมาขายไปให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด เพื่อจุดมุ่งหมายสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาสในสร้างรายได้ ช่วยขยายการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
รูปแบบคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย
คลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ 1) คลังสินค้าแบบดั้งเดิม (Traditional warehouse) เน้นให้บริการพื้นที่เช่า โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และระบบรักษาความปลอดภัย และ 2) คลังสินค้าสมัยใหม่ (Modern warehouse) ให้บริการพื้นที่เช่าที่รองรับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และระบบโลจิสติกส์ครบวงจร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการคลังสินค้าเช่น ระบบจัดเก็บ ระบบตรวจนับ ระบบตรวจสอบสินค้าคงคลังและคลังสินค้าอัตโนมัติ ที่ช่วยในการค้นหา จัดเรียงและขนถ่ายสินค้าสู่กระบวนการกระจายสินค้า รวมถึงการใช้แรงงานคนน้อยลง จึงสามารถตอบสนองความต้องการของผู้เช่าได้มากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางส่วนปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นคลังสินค้าสมัยใหม่มากขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงโครงสร้างอาคารให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และมีการลงทุนพัฒนาระบบอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมภายในอาคาร รวมถึงการวางโครงสร้างอาคารที่คำนึงถึงการป้องกันภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม และแผ่นดินไหว เป็นต้น โดยที่คลังสินค้ายกพื้นและเพดานสูงเพื่อจัดเก็บได้มากขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้การขนย้ายสินค้าได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการคลังสินค้าให้เช่าจำนวนมาก มีความแตกต่างในด้านสถานที่ตั้ง สิ่งอำนวยความสะดวกและวิธีการบริหารจัดการสินค้า ดังนั้นการเลือกใช้บริการคลังสินค้าไม่ใช่เรื่องง่ายในบทความนี้จะมาแนะนำ 5 เคล็ดลับในการเลือกใช้บริการคลังสินค้าที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกบริการที่เหมาะสม มั่นใจในคุณภาพ สอดคล้องกับธุรกิจของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่ามากที่สุด เพื่อให้ธุรกิจดำเนินการเป็นไปตามแผนงานที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างประสบความสำเร็จ
5 เคล็ดลับในการเลือกใช้บริการคลังสินค้าให้เช่า
1. เข้าใจธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณ
เริ่มต้นจากการเข้าใจธุรกิจ ตลาด และความต้องการของกลุ่มเป้าอย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถเลือกบริการคลังสินค้าที่เหมาะสมที่สุดช่วยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจด้วยการบริหารจัดการต้นทุนอย่างคุ้มค่า เช่น ขนาดของสินค้าที่ต้องการจัดเก็บ ระยะเวลาในการจัดเก็บสินค้า อุณหภูมิที่เหมาะสมในการจัดเก็บ รวมถึงบริการเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อสร้างเอกลักษณ์ความแตกต่างของธุรกิจคุณกับคู่แข่ง เช่น บริการแพ็คสินค้า บริการจัดส่ง ที่จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของธุรกิจคุณ
2. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของผู้ให้บริการคลังสินค้า
การเลือกใช้บริการคลังสินค้าผู้ประกอบการจะต้องทำการศึกษา เพื่อค้นหาบริษัทที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการให้บริการคลังสินค้า มีการรับรองจากหน่วยงานที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อสร้างความมั่นใจได้ในคุณภาพและประสิทธิภาพของบริการ โดยจะต้องคำนึงในหลาย ๆ ด้าน เช่น ความเชี่ยวชาญในการจัดเก็บสินค้า ระบบการควบคุมคุณภาพ การจัดการความเสี่ยง และบริการเสริมที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
3. ความเป็นมืออาชีพและระบบการบริหารจัดการ
ความเป็นมืออาชีพของบริษัทคลังสินค้ามีผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าของคุณ คุณควรเลือกคลังสินค้าที่มีระบบการบริหารจัดการที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานสากลและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถติดตามและควบคุมสินค้าของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบการติดตามสต็อกที่มีความแม่นยำ ระบบการจัดส่งที่รวดเร็วและปลอดภัย และระบบการรายงานสถานะการขนส่งแบบ Real time เป็นต้น
4. ด้านระบบความปลอดภัย
ความปลอดภัยของคลังสินค้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะในคลังสินค้าจะมีการจัดเก็บสินค้าหลากหลายประเภทซึ่งมีการดูแลและบริหารจัดการที่แตกต่างกัน ควรเลือกบริษัทที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง ให้ความสำคัญตั้งแต่เรื่องการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานให้ปลอดภัย มีการฝึกอบรมพัฒนาความรู้อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัย รวมถึงมีระบบการควบคุมการเข้าออกและการควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวด มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องมือที่ใช้ในคลัง รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในกรณีเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่น ถังดับเพลิง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือจากสถานะการณ์ฉุกเฉิน
5. มีระบบโลจิสติกส์ที่ครบครัน
บริษัทให้บริการคลังสินค้าที่มีระบบโลจิสติกส์ครบครัน ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การบริหารจัดการคลังสินค้า มีระบบที่สามารถตรวจสอบสต็อกสินค้าอย่างแม่นยำ มีการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ต่อยอดการกำหนดแผนธุรกิจ มีระบบการจัดส่งและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพช่วยให้สามารถจัดส่งสินค้าได้ตรงตามเวลา มีการติดตามการส่งสินค้าเพื่อให้ลูกค้าปลายทางได้รับสินค้าที่ถูกต้อง มีพื้นที่คลังสินค้าเพียงพอที่จะรองรับทั้งพนักงานและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานครบถ้วน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบการจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ ลานจอดรถ เเละระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
การเลือกใช้บริการคลังสินค้าให้เช่าประกอบด้วยหลายปัจจัย จาก 5 เคล็ดลับข้างต้นจะเป็นหนี่งในตัวช่วยให้คุณสามารถเลือกบริการคลังสินค้าที่เหมาะสมและช่วยส่งเสริมธุรกิจของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าและเติบโตอย่างยั่งยืน
บริการคลังสินค้าจาก SCGJWD
SCGJWD ให้บริการคลังสินค้าด้วยพื้นที่บริการขนาดใหญ่ที่สุดบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี มีบริการครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา คิดออกแบบพัฒนาซัพพลายเชนโซลูชัน เพื่อให้ตอบความต้องการของแต่ละธุรกิจมากที่สุดคลังสินค้าทั่วไป คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ และคลังสินค้าปลอดอากร บริการจัดเก็บและบริหารสินค้า บริการจัดทำเอกสารและติดต่อกับกรมศุลกากรในทุกขั้นตอน ตลอดจนการขนส่งกระจายสินค้าภายในประเทศและข้ามแดน และเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบซอฟต์แวร์ (Warehouse Management System Plus) ที่สามารถติดตามตรวจสอบสถานะสินค้าได้ทั้งซัพพลายเชน ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์
หากสนใจบริการคลังสินค้า และคลังสินค้าในเขตปลอดอากร คลิก หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD
ที่มา:
www.krungsri.com