ธุรกิจนำเข้าส่งออก เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีตลาดขนาดใหญ่และประเภทของสินค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่คนมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ในการใช้จ่ายและซื้อสินค้า การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาขาย หรือการส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศ จึงถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบธุรกิจอย่างแท้จริง
อยากทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก เริ่มต้นอย่างไรดี ?
การทำธุรกิจเต็มไปด้วยความท้าทาย ดังนั้น ผู้ประกอบการที่อยากทำธุรกิจส่งออกและนำเข้า คงสงสัยว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดีให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ คำตอบคือต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีและวางแผนอย่างรอบคอบ โดยใช้แนวทางเหล่านี้
- วิจัยตลาดเพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าและการเติบโตของตลาดในประเทศที่คุณสนใจ นำไปสู่การเลือกสินค้าที่มีความต้องการสูงในประเทศนั้น ๆ
- เรียนรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบการนำเข้า-ส่งออก ของทั้งประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง ตลอดจนภาษีศุลกากรและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อต้นทุนโดยตรง
- จัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ
- เลือกพาร์ตเนอร์โลจิสติกส์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในด้านเคลียร์ภาษีศุลกากร รวมทั้งวางแผนเส้นทางการขนส่งสินค้าทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และทางบกอย่างมีประสิทธิภาพ
- วางแผนการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในประเทศต่าง ๆ สร้างแบรนด์และสินค้าให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง
อัปเดตเทรนด์ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกยอดนิยมในประเทศไทย
อยากทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เทรนด์คือสิ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่กำหนดความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังช่วยให้สามารถเลือกสินค้าและกลยุทธ์การขยายตลาดได้อย่างเหมาะสม แล้วในยุคนี้ เทรนด์ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกที่น่าจับตามองมีอะไรบ้าง ไปรู้กัน
1. การเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
การช็อปปิงออนไลน์ได้รับความนิยมในทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสินค้าประเภทแฟชั่น เครื่องสำอาง และของใช้ส่วนตัว ควบคู่กับการเติบโตของการชำระเงินดิจิทัลและความสะดวกในการซื้อสินค้าผ่านสมาร์ตโฟน ทำให้เป็นโอกาสดีในการนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศ
2. การขยายตัวของการค้าผ่านโซเชียลมีเดีย
Social Commerce หรือการค้าผ่านโซเชียลมีเดียกำลังมาแรง ทั้งแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram และ TikTok ซึ่งสามารถโปรโมตและขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มได้โดยตรง ส่งผลให้การซื้อขายสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
3. การเติบโตของสินค้าฮาลาลในตลาดโลก
ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าฮาลาลที่สำคัญ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและตะวันออกกลาง ซึ่งสินค้าฮาลาลจากไทยในกลุ่มอาหารฮาลาล เครื่องสำอางฮาลาล และ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ เป็นที่ต้องการสูงในทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการบริโภคสินค้าฮาลาลเป็นหลัก
4. การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
การลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม กำลังเติบโตในเวทีโลก ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและตลาดโลก ทำให้การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน ถือเป็นเทรนด์ธุรกิจที่มีศักยภาพสูงในการขยายตลาดระหว่างประเทศ
5. การขยายธุรกิจ B2B
ตลาด B2B ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต ซึ่งมีความต้องการสูงจากผู้ประกอบการในตลาดโรงงาน โรงแรม และร้านอาหาร ที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง การขยายธุรกิจในกลุ่ม B2B จึงเป็นโอกาสดีในการเจาะตลาดและขยายการผลิตหรือบริการไปยังประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
6 กุญแจสำคัญ นำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสู่ความสำเร็จ
อยากทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกให้ประสบความสำเร็จ ต้องติดอาวุธด้วยการศึกษาความรู้เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออกให้ทะลุปรุโปร่ง มารู้จักกับ 6 กุญแจสำคัญที่ช่วยวางรากฐานและต่อยอดธุรกิจนำเข้า-ส่งออกได้อย่างมั่นคง สร้างผลลัพธ์ให้ธุรกิจไปต่อ ควบคู่กับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว
1. ติดตามข้อมูลและข่าวสารทางการค้าในเชิงลึกอยู่เสมอ
สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก การติดตามข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศในเชิงลึกอยู่เสมอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้คุณไม่หลุดเทรนด์ และเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น นำไปสู่การเลือกตลาดที่เหมาะสมกับสินค้า หรือเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับตลาด ซึ่งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ สามารถหาได้จากหน่วยงานของรัฐที่มีบทบาทในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ หรือจะติดตามจากช่องทางสื่อสารต่าง ๆ ของหน่วยงานก็ได้เช่นกัน
2. จดทะเบียนพาณิชย์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้องค์กร
ในการทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก การจดทะเบียนพาณิชย์เป็นนิติบุคคล เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่จำเป็นต้องทำ เพราะจะช่วยทำให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าว่าจะได้รับสินค้าอย่างแน่นอน และมีความปลอดภัยสูง เพราะผ่านการรับรองในระดับประเทศมาแล้วนั่นเอง
3. รู้จักตลาดแบบเจาะลึก มีการปรับใช้กลยุทธ์อย่างเหมาะสม
การจะทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง โดยในมุมของการส่งออก จะต้องรู้และเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นของเมืองนั้น ๆ เป็นอย่างดีเพื่อเลือกสินค้าที่จะส่งไปขายได้อย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกัน การนำเข้าก็ต้องเลือกสินค้าที่ตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดเช่นกัน
นอกจากนี้ การผูกมิตรหรือร่วมลงทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น ยังเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของคุณ และช่วยให้คุณสามารถเข้าใจความชอบและความต้องการของแต่ละท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น
4. ก่อนนำเข้า-ส่งออกทุกครั้ง ต้องมั่นใจว่าเอกสารครบ
สิ่งหนึ่งที่มักเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้า-ส่งออก คือ การต้องเตรียมเอกสารจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นใบขนสินค้าขาเข้า/ขาออก ใบอนุญาตการส่งออก ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (CO) หรือเอกสารอื่น ๆ เช่น แค็ตตาล็อก เอกสารแสดงส่วนผสม หากเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งขาดไป การขนส่งสินค้าอาจต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้การส่งสินค้าล่าช้า หรือทำให้สินค้าหมดอายุและเน่าเสียได้
ดังนั้น หากคุณมีพันธมิตรเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าต่างประเทศที่มีความเข้าใจในเรื่องการจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ มาช่วยจัดการเอกสารให้ก่อนการนำเข้า-ส่งออกทุกครั้ง จะช่วยปลดล็อกคุณจากปัญหาเหล่านี้ได้ และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจให้แก่คุณอีกด้วย
5. เข้าใจกฎระเบียบข้อบังคับของประเทศต้นทาง-ปลายทาง
นอกจากการเตรียมเอกสารแล้ว ผู้ประกอบการยังจำเป็นต้องเข้าใจกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของประเทศต้นทางและปลายทางที่จะนำเข้าหรือส่งออกสินค้าด้วยเช่นกัน โดยการศึกษามาตรฐานและกฎระเบียบต่าง ๆ ไว้ให้พร้อม หรือสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่มีบทบาทในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความราบรื่น และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
6. ร่วมงานกับบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบครบวงจร
สำหรับกุญแจสำคัญดอกสุดท้ายในการทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก คือการเลือกใช้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบครบวงจร สามารถรองรับการขนส่งสินค้าได้ทุกประเภท ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งการมีระบบโลจิสติกส์ที่ครอบคลุม จะช่วยให้การขนส่งสินค้าจากต้นทางถึงปลายทางเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องติดต่อหลายฝ่าย และการเลือกบริษัทที่ให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านพิธีการศุลกากรและการจัดทำเอกสาร Shipping Document ยังช่วยให้กระบวนการนำเข้าและส่งออกสินค้าราบรื่น ลดความยุ่งยากในการดำเนินการ พร้อมเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการทำธุรกิจอย่างเต็มที่
หากผู้ประกอบการสามารถคว้ากุญแจทั้ง 6 ดอกนี้ มาไว้ในมือได้อย่างครบถ้วน มั่นใจได้เลยว่าคุณจะสามารถเปิดประตูพาธุรกิจนำเข้า-ส่งออกไปสู่อนาคตที่สดใส และนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
สำหรับใครที่กำลังมองหาบริการขนส่งสินค้าต่างประเทศ SCGJWD พร้อมให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบครบวงจรโดยเจ้าหน้าที่ประสบการณ์สูง ประกอบไปด้วย 3 บริการหลัก ได้แก่
- นำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ด้วยรูปแบบการขนส่งที่ครบวงจร ทั้งการขนส่งทางเรือ ทางเครื่องบิน ทางรถไฟ และทางรถยนต์ มีพื้นที่คลังสินค้าให้บริการทุกรูปแบบ
- อำนวยความสะดวกในการดำเนินพิธีการศุลกากร ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องสิทธิประโยชน์แก่ผู้นำเข้า-ส่งออก โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
- เพิ่มความรวดเร็วและคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก ด้วยบริการจัดทำเอกสาร Shipping Document และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ พร้อมการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาช่วยลดต้นทุน เวลา และความผิดพลาดในการออกเอกสารให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย
สนใจบริการขนส่งสินค้าต่างประเทศของ SCGJWD ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริการชิปปิ้งระหว่างประเทศและจัดการพิธีการศุลกากร หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 หรือ 02-586-1979 และ LINE : @SCGJWD