การบริหารคลังสินค้าเป็นหนึ่งในความสำคัญของโลจิสติกส์

ความสำคัญของโลจิสติกส์ที่ช่วยลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

“โลจิสติกส์” ไม่ใช่แค่เพียงการขนส่งสินค้าหรือจัดเก็บสิ่งของเท่านั้น แต่เป็นการบริหารจัดการระบบการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บสินค้า ข้อมูล และทรัพยากร ทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ความสำคัญของโลจิสติกส์จึงไม่ใช่แค่การขนส่งสินค้าให้เร็วที่สุดเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจและสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันทางการค้าอีกด้วย

โลจิสติกส์คืออะไร เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง ?  

ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า ‘โลจิสติกส์’ หรือ ‘ลอจิสติกส์’ (logistics) กันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งคำว่า โลจิสติกส์ มาจากภาษาฝรั่งเศสคำว่า logistique ที่มีรากศัพท์คำว่า โลเชร์ (loger) ที่หมายถึงการเก็บ ซึ่งความหมายของโลจิสติกส์คือ ระบบการจัดการการส่งสินค้า ข้อมูล และทรัพยากรจากจุดต้นทางไปยังจุดบริโภคตามความต้องการของลูกค้า

ด้วยเหตุนี้ โลจิสติกส์จึงเป็นการผสมผสานของ ข้อมูล การขนส่ง การบริหารวัสดุคงคลัง การจัดการวัตถุดิบ การบรรจุหีบห่อ และเป็นช่องทางหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มมูลค่าของการใช้ประโยชน์ของเวลาและสถานที่ รวมถึงมีความเกี่ยวข้องกับหลายองค์ประกอบ เช่น การขนส่ง การจัดเก็บสินค้า การบริหารคลัง การบรรจุหีบห่อ และการจัดการข้อมูล โดยมีเป้าหมายคือ ลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็ว และส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

 

จุดกำเนิดของโลจิสติกส์คืออะไร ?

จุดกำเนิดของบริการด้านโลจิสติกส์มาจากกองทัพอังกฤษก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่มีการจัดระบบการส่งกำลังบำรุงทางทหาร มีการสร้างสาธารณูปการ เช่น ถนน รถไฟ ท่าเรือ สนามบิน สถานที่จัดเก็บสินค้า รวมทั้งยานพาหนะที่ใช้ในการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ 

ก่อนจะมีวิวัฒนาการเรื่อยมาจนถึงปลายศตวรรษที่ 19 สหรัฐอเมริกาได้เริ่มมีการกระจายสินค้าด้านพืชผลทางการเกษตรก็มีการแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์กันอย่างแพร่หลายทั่วทวีปอเมริกา ต่อมาประมาณปี ค.ศ. 1870 ก็มีการจัดรูปแบบการกระจายสินค้าด้านอุตสาหกรรมมากขึ้นเป็นลำดับ จนเกิดศาสตร์ทางด้านการจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management Science) อย่างเป็นทางการขึ้นที่สหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1964 และภาคเอกชน ก็ได้นำเอาแนวคิดการจัดการโลจิสติกส์มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจจนถึงปัจจุบัน


ความสำคัญของโลจิสติกส์ในธุรกิจ

สำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม โลจิสติกส์เป็นหัวใจของการดำเนินงาน โดยมีความสำคัญดังต่อไปนี้ 

  1. ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน และสร้างกำไรทางธุรกิจได้มากขึ้น โดยระบบโลจิสติกส์จะเข้ามาวางแผนการใช้ทรัพยากรให้ได้ประโยชน์สูงสุด พร้อมกับช่วยลดทอนความเสียหายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติงานหรือการเสียโอกาสทางธุรกิจ
  2. เพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิต สามารถวางแผนและบริการการขนส่งและจัดเก็บสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ตรงตามที่วางแผนไว้ 
  3. ลดเวลาการดำเนินงาน มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการผลิตและขนส่งสินค้า 
  4. เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยโลจิสติกส์ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจ ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าทั้งภายในและภายนอกองค์กร
  5. เพิ่มอำนาจการแข่งขันทางธุรกิจให้นำหน้าเหนือคู่แข่ง สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและตรงความต้องการของลูกค้า
  6. รองรับการขยายตัวของธุรกิจในระดับภูมิภาคและระดับโลก สนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจให้ไปไกลกว่าแค่ในท้องถิ่น ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน คลังสินค้า และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ

ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับระบบโลจิสติกส์มีอะไรบ้าง ?

การที่จะทำอย่างนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น โลจิสติกส์จำเป็นต้องมีศาสตร์แขนงต่าง ๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งมีศาสตร์ที่เกี่ยวข้องอยู่ 3 ศาสตร์ คือ

  • วิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ
  • บริหารธุรกิจ ทำหน้าที่ดูแลในเรื่องของการขนส่งระหว่างประเทศโดยจะพิจารณา ภาษี กฎหมาย ค่าระวาง นโยบายหรือยุทธศาสตร์ทางด้านโลจิสติกส์ของแต่ละประเทศ และการค้าระหว่างประเทศเพื่อนำมาประกอบ การวางแผนการขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ
  • การจัดการสารสนเทศ ทำหน้าที่ศึกษาในส่วนของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ นำมาควบรวมกัน เป็นบริการที่จะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมทางโลจิสติกส์มีความคล่องตัวมากขึ้น


การจัดการโลจิสติกส์มีอะไรบ้าง ?

โลจิสติกส์ประกอบไปด้วย 13 กิจกรรม ครอบคลุมทุกขั้นตอนการขนส่งสินค้า ข้อมูล และบริการ ตั้งแต่ต้นทางไปยังปลายทาง ดังต่อไปนี้ 

  1. การบริการลูกค้า (Customer Service) ให้บริการหลังการขาย การตอบคำถาม ติดตามสถานะคำสั่งซื้อ และดูแลความพึงพอใจ เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า
  2. การคาดการณ์ความต้องการ (Demand Forecasting) โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินปริมาณสินค้าที่ลูกค้าต้องการในช่วงเวลาต่าง ๆ และใช้ในการวางแผนการจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งให้ตรงตามเวลาที่กำหนด 
  3. การจัดซื้อจัดหา (Purchasing) คัดเลือกและจัดซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าอย่างมีกลยุทธ์ คำนึงถึงราคา การขนส่งและคุณภาพของสินค้า เพื่อควบคุมต้นทุนและสร้างความมั่นคงให้แก่การทำธุรกิจ
  4. การบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory Management) ควบคุมระดับสินค้าคงคลังให้เพียงพอ ลดของเสีย และวางแผนการเติมสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 
  5. การบริหารคลังสินค้า (Warehousing) บริหารจัดการพื้นที่คลังสินค้า ควบคุมอุณหภูมิ ความปลอดภัย และระบบจัดเก็บ เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า
  6. การขนส่ง (Transportation) วางแผนเส้นทางและรูปแบบการขนส่ง เช่น รถบรรทุก เรือ เครื่องบิน ฯลฯ เพื่อให้สินค้าถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีต้นทุนที่เหมาะสม
  7. การจัดการกระบวนการสั่งซื้อ (Order Processing) บริหารจัดการตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อ การตรวจสอบสินค้า ไปจนถึงการส่งมอบให้ถึงมือลูกค้าอย่างถูกต้องและตรงเวลา
  8. การจัดการข้อมูลโลจิสติกส์ (Logistics Information Systems) ใช้เทคโนโลยี เช่น WMS, TMS, ERP หรือ AI เพื่อช่วยให้ทุกกระบวนการในโลจิสติกส์ทำงานได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
  9. การบรรจุหีบห่อ (Packaging) ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับการจัดเก็บและขนส่ง เพื่อป้องกันความเสียหายของสินค้า
  10. การจัดการวัสดุ (Materials Handling) การเคลื่อนย้าย จัดเรียง หรือหยิบสินค้าในคลังหรือศูนย์กระจายสินค้าอย่างมีระบบ เพื่อลดความสูญเสียและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน
  11. การขนส่งย้อนกลับ (Reverse Logistics) บริหารจัดการสินค้าคืน ซ่อมแซม หรือทำลาย เช่น สินค้าชำรุด หมดอายุ หรือคืนจากลูกค้า
  12. การคัดเลือกสถานที่ตั้ง (Facility Location Selection) การวิเคราะห์และเลือกสถานที่ตั้งคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า หรือศูนย์ขนส่งที่มีความเหมาะสมเชิงยุทธศาสตร์
  13. การจัดเตรียมอะไหล่และชิ้นส่วนต่าง ๆ (Part and Service Support) จัดเตรียมชิ้นส่วนอะไหล่และเครื่องมือเมื่อสินค้าชำรุดหรือเสียหาย 

ตารางเปรียบเทียบโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าต่างกันอย่างไร ?

โลจิสติกส์และการขนส่งสินค้า หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ที่จริงแล้วการขนส่งสินค้าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดการโลจิสติกส์เท่านั้น โดยมีความแตกต่างกัน ดังนี้


หัวข้อ

โลจิสติกส์

การขนส่ง

คำจำกัดความ

การวางแผน จัดการ และควบคุมการเคลื่อนที่ของสินค้า บริการ และข้อมูล จากจุดเริ่มต้นไปจนถึงปลายทาง

การเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง โดยรูปแบบการขนส่งต่าง ๆ

ขอบเขต

ครอบคลุมทั้งการจัดเก็บสินค้า การจัดการสินค้าคงคลัง บรรจุภัณฑ์ การจัดการคำสั่งซื้อ การวางแผนเส้นทาง และการขนส่ง

เฉพาะการเคลื่อนย้ายสินค้าและส่งมอบเท่านั้น 

เป้าหมาย

สินค้าถูกส่งไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง สภาพที่เหมาะสม ในช่วงเวลาที่กำหนด ด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด

สินค้าถูกเคลื่อนย้ายไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัด

มิติของการตัดสินใจ

เชิงกลยุทธ์

เชิงปฏิบัติการ



ประเภทของการจัดการโลจิสติกส์มีอะไรบ้าง ?

การจัดการโลจิสติกส์สามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของบทบาทหน้าที่มหภาคของประเทศ ได้ดังนี้

  1. การจัดการโลจิสติกส์ด้านการทหาร (Military Logistics Management) หมายถึงการจัดการการจัดส่งกำลังบำรุงด้านการทหาร เช่น ยุทโธปกรณ์ ปัจจัยสี่ การรักษาพยาบาลและสารสนเทศ เพื่อมุ่งหวังชัยชนะทางทหารเป็นสำคัญ
  2. การจัดการโลจิสติกส์ด้านวิศวกรรม (Engineering Logistics Management) หมายถึงการจัดการด้านการวิศวกรรมจัดส่งลำเลียง อันได้แก่การสร้างการบูรณาการและการบำรุงรักษาสาธารณูปการ ทั้งระบบขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางท่อ ระบบการจัดเก็บและระบบสารสนเทศ เพื่อมุ่งหวังความพร้อมในระบบการจัดเก็บและการจัดส่งลำเลียงทั้งระบบเป็นสำคัญ
  3. การจัดการโลจิสติกส์ด้านธุรกิจ (Business Logistics Management) หมายถึงการจัดการด้านการจัดเก็บและจัดส่งสินค้า คน สัตว์ สิ่งของ จากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งตามที่มนุษย์ต้องการ เพื่อมุ่งหวังความสำเร็จทางธุรกิจเป็นสำคัญ

ทั้งหมดนี้ น่าจะทำให้ทุกคนรู้จักความหมายของโลจิสติกส์มากขึ้นและคงเห็นภาพชัดเจนขึ้นด้วยว่า โลจิสติกส์เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ เรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหารออนไลน์ การส่งพัสดุ หรือการซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ล้วนต้องอาศัยระบบโลจิสติกส์ทั้งสิ้น ทำให้เห็นได้ชัดว่า โลจิสติกส์คือส่วนสำคัญที่เชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าไว้ด้วยกัน เป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจและผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจเกี่ยวกับโลจิสติกส์ จะช่วยให้เรามองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และสามารถนำแนวคิดเหล่านี้ไปต่อยอดในองค์กรได้อย่างยั่งยืน


ยกระดับโลจิสติกส์ให้เหนือกว่าคู่แข่ง 

SCGJWD คือบริษัทโลจิสติกส์ที่ให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดเก็บควบคุมอุณหภูมิ ขนส่งสินค้า ไปจนถึงการจัดการซัพพลายเชนทั่วอาเซียนและจีนตอนใต้ บริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, ระบบ WMS‑TMS, และศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ

  • ครอบคลุมทุกกิจกรรมโลจิสติกส์ ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง
  • มีรถขนส่งมากกว่า 14,000 คัน รองรับทุกประเภทสินค้า
  • ระบบคลังสินค้าทั่วประเทศ ทั้งคลังทั่วไป คลังสินค้าห้องเย็น และคลังสินค้าเสรี
  • ให้คำปรึกษาเชิงลึก ปรับบริการให้ตรงกับอุตสาหกรรมของคุณ

สอบถามรายละเอียดบริการ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่


ข้อมูลอ้างอิง 

โลจิสติกส์และซัพพลายเชนแบบเข้าใจง่าย. สืบค้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2569 จาก https://www.thonburi-u.ac.th/Journal/Document/6-11/11-8-Chatchai.pdf 

คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับระบบโลจิสติกส์

[box-content-accordion id="56"]

Service Recommended