บริการขนส่งข้ามแดน เปิดประตูการค้าสู่รถไฟจีน-ลาว
สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้า การมีบริการขนส่งข้ามแดนและโครงข่าย
โลจิสติกส์ที่ดี จะเป็นเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดการเปิดเดินรถไฟจีน-ลาว จึงสร้างความสั่นสะเทือนให้กับเหล่าผู้ประกอบการไม่น้อยเลย ซึ่งบางคนอาจมองว่าเป็นโอกาส บางคนอาจมองว่าเป็นความท้าทาย แล้วการมาของเส้นทางรถไฟสายนี้ ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวให้ทันกับเรื่องใดบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมกันได้ในบทความนี้
รถไฟจีน-ลาว เชื่อมเศรษฐกิจ จีน-ลาว-ไทย
รถไฟจีน-ลาว เปิดให้บริการไปตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา หลังจากใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี ซึ่งรถไฟสายนี้มีแนวเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว และเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,035 กิโลเมตร ใช้งบประมาณลงทุนในโครงการกว่า 5,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคำนวณเป็นเงินไทยประมาณ 200,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
รถไฟจีน-ลาว ยังเป็นหนึ่งในเส้นทาง Belt & Road Initiative-BRI หรือเส้นทางสายใหม่ ที่จะเชื่อมโยงด้านคมนาคมโลจิสติกส์และเป็นเส้นทางการค้าของจีนกับประเทศต่าง ๆ ที่พาดผ่านเส้นทางนี้ ซึ่งนั่นหมายถึงมูลค่ามหาศาลที่จะเกิดขึ้นจากการทำธุรกิจระหว่างประเทศ โดยอาศัยประโยชน์จากรถไฟสายนี้
สำหรับประเทศไทย ซึ่งมีพรมแดนติดกับนครหลวงเวียงจันทน์ของประเทศลาวเพียง 30 กิโลเมตร ย่อมมีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากเส้นทางสายนี้ได้เช่นกัน โดยรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ประเมินไว้ว่า รถไฟจีน-ลาวสามารถส่งเสริมการค้าระหว่างจีน ลาว และไทยได้เป็นอย่างมากเพราะ จะทำให้การขนส่งข้ามแดนจากคุนหมิงมาถึงจังหวัดหนองคาย ใช้เวลาไม่เกิน 15 ชั่วโมง ทั้งยังมีต้นทุนถูกกว่าการขนส่งทางถนนถึง 2 เท่า
ผู้ประกอบการไทยได้ประโยชน์อะไรจากการเปิดเดินรถไฟจีน-ลาว
ด้านการนำเข้า
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า การขนส่งข้ามแดนทางรางช่วยลดต้นทุนได้มากกว่า และใช้ระยะเวลาในการขนส่งที่น้อยกว่า จึงถือเป็นแต้มต่อของผู้ประกอบการที่นำเข้าสินค้าจากจีน โดยกลุ่มสินค้าที่ได้รับประโยชน์ คือ
- กลุ่มวัตถุดิบต่าง ๆ และกลุ่มผลผลิตทางการเกษตร อาทิ เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์โทรคมนาคม ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก และผักผลไม้เมืองหนาว
- กลุ่มสินค้าที่เป็นซัพพลายเชน (Supply Chain) ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- กลุ่มสินค้าอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) อาทิ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้าแฟชั่น สินค้ากีฬาและ การเดินทาง
ด้านการส่งออก
รถไฟจีน-ลาว จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขนส่งข้ามแดนไปยังประเทศจีนมากขึ้น โดยในระยะแรกจะเป็นการขยายตลาดไปยังมณฑลยูนนาน รวมถึงมณฑลใกล้เคียง ซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพในการส่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่มแชมเปียน อาทิ ผลไม้ พลาสติกและผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบรถยนต์ ทองแดงและผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์และอาหารทะเลเพื่อการบริโภค
- กลุ่มที่พัฒนาได้ อาทิ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ธัญพืช อาหารปรุงแต่งเบ็ดเตล็ดที่บริโภคได้ (กะทิสำเร็จรูป ซอสปรุงรส) น้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาล รวมถึงเครื่องหอม และเครื่องสำอาง
กุญแจ 3 ดอก ปลดล็อก SMEs ไทย คว้าประโยชน์จากรถไฟจีน-ลาว
ถึงแม้รถไฟจีน-ลาว จะเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทย แต่ด้วยข้อจำกัดในการส่งออกสินค้าไปจีน ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวให้ไว เพื่อปลดล็อกตนเองและคว้าประโยชน์จากรถไฟสายนี้ โดยมีกุญแจ 3 ดอก ที่ช่วยไขประตูสู่โอกาสในการทำการค้ากับจีน คือ
มีความเข้าใจในการทำธุรกิจระหว่างไทยกับจีน
ผู้ประกอบการต้องมีความเข้าใจในการทำธุรกิจร่วมกับจีน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของตลาด กฎระเบียบในการส่งสินค้าไปขายยังประเทศจีน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มีระบบการชำระเงินที่รองรับสกุลเงินของจีน
ผู้ประกอบการควรมองหาช่องทางการชำระเงินที่รองรับการชำระเงินสกุลหยวนในรูปแบบของ E-payment เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าชาวจีน หรือการใช้บริการผ่านตัวกลางที่เป็นผู้ให้บริการช่องทางโอนเงินที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะเป็นช่องทางที่น่าเชื่อถือ และมีความสะดวก ปลอดภัย
มีบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพ
ในปัจจุบัน การขนส่งสินค้าไปยังประเทศจีน จะใช้รถขนส่งข้ามแดนจากคลังไปยังด่านชายแดนหนองคาย และเชื่อมต่อไปยังประเทศลาวและจีนด้วยรถขนส่งสินค้าเช่นเดียวกัน แต่หลังจากที่มีการเปิดเดินรถไฟจีน-ลาว จะช่วยย่นระยะทางในการขนส่งไปได้อย่างมาก เพราะสามารถส่งสินค้าต่อไปยังรถไฟจีน-ลาว จากบริเวณด่านชายแดนหนองคายได้เลย
ดังนั้น เพื่อคว้าโอกาสในการใช้ประโยชน์จากรถไฟจีน-ลาว ผู้ประกอบการ SMEs ต้องมีบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่สามารถเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าจากคลังสินค้าไปยังด่านชายแดนไทย-ลาวได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว และสามารถบริหารจัดการการขนส่งทางรถยนต์เที่ยวกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องวิ่งรถขนส่งเปล่า ๆ ให้สิ้นเปลือง ช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุนได้มากยิ่งขึ้น
แต่ทั้งนี้ ผู้ประกอบการยังจะต้องมีผู้ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศที่เข้าใจเกี่ยวกับพิธีการศุลกากร และสามารถจัดการด้านเอกสารที่เกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศได้อย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขนส่งข้ามแดนจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนได้อย่างสะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและขนส่ง ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญให้กับการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังลาวให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น อย่างโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 หนองคาย-เวียงจันทน์ ยังจะช่วยขับเคลื่อนและส่งเสริมให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทย-ลาว-จีน มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในอนาคต
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการจะคว้าประโยชน์จากโครงการรถไฟจีน-ลาว บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจาก SCGJWD เป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน โดยใช้เส้นทางรถไฟจีน-ลาวได้อย่างคล่องตัว รวดเร็ว และราบรื่น เพราะ SCGJWD เป็นผู้ให้บริการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศแบบครบวงจรทั้งทางทะเล ทางอากาศ ทางรถไฟ พิธีการศุลกากร และการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านบริการนำเข้า-ส่งออก ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า ภายใต้การจัดการด้านการขนส่งแบบมืออาชีพ ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าจะถึงจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และครบถ้วน