ลานจอดพักรถยนต์

Milk run โลจิสติกส์ที่เสริมธุรกิจยานยนต์

อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต จากรายงานของ International Organization of Motor Vehicle Manufacturers (OICA) ระบุว่า ยอดการผลิตรถยนต์จะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำอย่าง Wards Intelligence ทั้งนี้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สรุปข้อมูลสถิติส่งออกกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2566 มีมูลค่าทั้งสิ้น 1,046,201.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.89% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 1,117,539 คัน เพิ่มขึ้น 11.73%YoY นอกจากนี้เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนชิ้นส่วนยานยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่าการส่งออก 972,790.64 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.13%(YoY) และในปี 2567 มูลค่าตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โครงสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

โครงสร้างธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สามารถแบ่งได้ 3 รูปแบบดังนี้

รูปแบบที่ 1 การแบ่งประเภทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ตามลำดับการส่งมอบ (Tier)
ซึ่งมี 3 ลำดับคือ ผู้ผลิตชิ้นส่วนลำดับที่ 1 (Tier 1) เป็นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และส่งให้กับผู้ผลิตหรือประกอบรถยนต์โดยตรง ซึ่งชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตจะแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มระบบส่งกำลัง (Powertrain) ระบบช่วงล่าง (Suspension) ระบบไฟฟ้า (Electrical and Electronic) กลุ่มตัวถัง (Body) และกลุ่มชิ้นส่วนอื่น ๆ (Other) โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการกิจการขนาดใหญ่ (LSEs) ที่มีประมาณ 529 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 23% ของผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งหมด ผู้ผลิตชิ้นส่วนลำดับที่ 2 (Tier 2) และ ผู้ผลิตชิ้นส่วนลำดับที่ 3 (Tier 3) เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนฯ ย่อยหรือ จัดหาวัตถุดิบ อาทิโลหะ พลาสติก ยาง กระจก ผ้า ส่งให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนตามลำดับ Tier ก่อนหน้า โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการกิจการขนาดกลางและย่อม (SMEs) ที่มีประมาณ 1,756 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 77% ของผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนฯ ทั้งหมด

รูปแบบที่ 2 การแบ่งตามประเภทชิ้นส่วน (OEM และ REM)
ตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยแบ่งเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ประเภท OEM (Original Equipment Manufacturing) หรือชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ป้อนให้กับโรงงานประกอบรถยนต์โดยตรง จะมีสัดส่วนประมาณ 30-40% ของมูลค่าตลาด และชิ้นส่วนยานยนต์ประเภท REM (Replacement Equipment Manufacturing) หรือชิ้นส่วนยานยนต์ประเภทอะไหล่ทดแทน มีสัดส่วนประมาณ 60-70% ของมูลค่าตลาด

รูปแบบที่ 3 การแบ่งตามช่องทางการใช้งานหรือการจำหน่าย
ประเภทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ แบ่งตามช่องทางการใช้งานหรือการจัดจำหน่ายได้แก่ ตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา ตลาดชิ้นส่วนยานยนต์พึ่งพาตลาดในประเทศเป็นมูลค่าราว 0.89-1.04 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหลักถึง 60-70% ของมูลค่าตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งหมด ขณะที่ตลาดส่งออกมีมูลค่าราว 0.45-0.60 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30-40% โดยมีคู่ค้าหลักเป็นกลุ่มประเทศที่เป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นต้น

การจัดส่งรูปแบบ Milk run

การขนส่งแบบ Milk Run ได้แนวคิดมาจากการขนส่งนมสดจากฟาร์มไปตามบ้าน โดยจะจัดส่งไปตามบ้านที่มีขวดนมเปล่ามาวางรอไว้ ทางฟาร์มจะเก็บขวดเปล่าแล้วนำนมขวดใหม่วางแทนเท่าจำนวนเดิม และรถขนส่งขากลับรถคันดังกล่าวจะบรรทุกขวดนมเปล่ากลับ การจัดส่งแบบ Milk Run จึงถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการขนส่งชิ้นส่วนยานยนต์อธิบายโดยละเอียดดังนี้ เมื่อรถขนส่งรับชิ้นส่วนยานยนต์จากโรงงานหลาย ๆ โรงงานที่อยู่บริเวณพื้นที่เดียวกันเดินทางถึงที่โรงงานผลิตรถยนต์ และทำการลงสินค้าจนเสร็จแล้ว รถบรรทุกคันนั้นจะนำภาชนะบรรจุชิ้นส่วนยานยนต์ที่ส่งไปครั้งก่อนกลับไปยังโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อใช้สำหรับการจัดส่งในครั้งถัดไป

ข้อดีการจัดส่งรูปแบบ Milk run

  1. ลดต้นทุนการขนส่ง จากการลดเที่ยวการขนส่งสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์และภาชนะเปล่า
  2. สามารถส่งมอบชิ้นส่วนรถยนต์เข้ากระบวนการผลิตแบบทันเวลาพอดี หรือ Just in Time ลดการเกิดปัญหาการจราจรหนาแน่นที่หน้าโรงงานผลิตรถยนต์ ในการรอลงสินค้า
  3. โรงงานผลิตยานยนต์สามารถบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดจำนวนสินค้าคงคลัง เนื่องจากวัตถุดิบสามารถมาส่งได้ในเวลาที่แน่นอน ทำให้สามารถวางแผนในการสั่งซื้อวัตถุดิบให้มีจำนวนที่เหมาะสม

บริการโลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์จาก SCGJWD

SCGJWD ผู้ให้บริการออกแบบโซลูชันที่ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจยานยนต์ รวมถึงสินค้าประเภทอะไหล่ (Spare parts) ประดับยนต์ (Car Accessory) พร้อมบริการบริหารจัดการรถยนต์ในพื้นที่ของลูกค้า (On-site Service) โดยอาศัยองค์ความรู้ที่ได้จากประสบการณ์การให้บริการผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ผนวกกับนวัตกรรมซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย สามารถออกแบบตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย มีบริการด้านโลจิสติกส์ยานยนต์ดังนี้

  • บริการจัดการคลังชิ้นส่วนยานยนต์และลานจอดพักรถยนต์บนพื้นที่ทั่วไปและพื้นที่เขตปลอดอากร
  • บริการรับบริหารจัดการคลังและรถยนต์ในพื้นที่ผู้ผลิต (Onsite Yard and Warehouse Management)
  • บริการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนส่งมอบ (Pre-Delivery Inspection)
  • บริการการซ่อมแซมสีและลบรอยตำหนิก่อนส่งมอบ (Light Repair)
  • บริการตรวจทำความสะอาดวัชพืชหรือแมลงที่ติดมากับรถยนต์ตามเงื่อนไขก่อนส่งให้กับลูกค้าต่างประเทศ (Seeds Contaminations Inspection)
  • บริการขนส่งสินค้าแบบ Milk Run ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งวัตถุดิบจากผู้ผลิตหลายแห่งเข้าโรงงาน ช่วยให้ผลิตสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องหยุดไลน์การผลิตกลางคัน
  • บริการขนส่งรถยนต์ทั่วประเทศและขนส่งข้ามแดน
  • บริการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับจัดการบริหารจัดการรถยนต์และชิ้นส่วนยาน
    • ระบบบริหารจัดการลานจอดพักรถยนต์ (AYMS)
    • ระบบการจัดเส้นทางการขนส่ง (Route Optimization)
    • ระบบการติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ (Track and Trace)
  • บริการเสริมพิเศษอื่น ๆ และบริการให้คำปรึกษาระบบงานด้านโลจิสติกส์
  • บริการขนส่งแบบ Next Day Nationwide สามารถขนส่งสินค้าได้ทั่วประเทศโดยสินค้าจะถึงปลายทางภายในวันถัดไป

หากสนใจบริการโลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และส่วนประกอบ คลิก หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD

ที่มา:
www.longtunman.com

www.krungthai.com

www.greedisgoods.com

www.canva.com

www.mreport.co.th

www.asia.nikkei.com


Service Recommended