เคล็ดลับจัดการพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพให้โกดังให้เช่า

การเลือกคลังสินค้าหรือโกดังให้เช่า ถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายขีดความสามารถในการจัดการสินค้าหรือวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งการวางแผนเช่าโกดังอย่างรอบคอบไม่เพียงช่วยให้แบรนด์บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดข้อพิพาทหรือการเก็บสินค้าที่ไม่ปลอดภัย


นอกจากนี้ การจัดระเบียบโกดังอย่างมีระบบยังจะช่วยให้สินค้าของคุณได้รับการจัดเก็บอย่างปลอดภัยและสามารถเข้าถึงได้ง่าย พร้อมสำหรับการใช้งานหรือการจัดส่งไปยังผู้รับในทุกช่วงเวลา


เข้าใจก่อนเลือก คลังสินค้าแบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจคุณ ?


ในการเลือกโกดังให้เช่าสำหรับธุรกิจ ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาได้แก่ ทำเลที่ตั้ง ที่ต้องสะดวกต่อการขนส่งทั้งทางบกและน้ำ ขนาดและประเภทของโกดัง ที่ต้องรองรับสินค้าและการจัดเก็บที่เหมาะสม อีกทั้งต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยของพื้นที่และการควบคุมอุณหภูมิ โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องการการเก็บรักษาเป็นพิเศษ


นอกจากนี้ ควรเลือกพาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์ ให้คำแนะนำในด้านการจัดการโลจิสติกส์และการเคลียร์ภาษีได้ครอบคลุม เพื่อให้ธุรกิจสามารถขยายการดำเนินงานได้อย่างราบรื่น โดยคุณสามารถศึกษา เนื้อหาฉบับเต็มได้ที่บทความ เทคนิคเลือกคลังสินค้าให้เช่า ตอบโจทย์ธุรกิจในทุกมิติ


ข้อควรระวังในการเลือกและทำสัญญาเช่าคลังสินค้า


หลังจากได้โกดังสินค้าที่มีคุณสมบัติตามต้องการแล้ว สิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ เพื่อให้การเช่าโกดังเป็นไปอย่างราบรื่นและช่วยบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด คือการศึกษาข้อควรระวังก่อนทำสัญญากับบริษัทให้เช่าคลังสินค้าอย่างละเอียด โดยในการเช่าโกดังเก็บของ มีข้อควรระวังที่ต้องให้ความสำคัญ ดังนี้


1. ระบุข้อตกลงสัญญาให้ชัดเจน


ใช้บริการโกดังให้เช่า ข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจที่สุด คือรายละเอียดในสัญญา ซึ่งการทำสัญญาคลังสินค้าต้องมีการระบุข้อตกลงที่ชัดเจน ครบถ้วน และเป็นลายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับระยะเวลาเช่า ราคาค่าเช่า และเงื่อนไขการยกเลิกสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนและปัญหาทางกฎหมายในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการยกเลิกหรือการต่ออายุสัญญา


2. ตรวจสอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างละเอียด


อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องตรวจสอบให้ดีไม่แพ้กัน คือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าบริการการรักษาความปลอดภัย หากไม่มีการระบุให้ชัดเจนในสัญญา อาจส่งผลให้ต้นทุนการเช่าคลังสินค้าสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ได้


3. ตรวจสอบสภาพคลังสินค้าและโครงสร้างอาคาร


ก่อนทำสัญญาเช่าโกดังสินค้าทุกครั้ง ต้องเช็กโครงสร้าง พื้น หลังคา ระบบระบายอากาศ และระบบไฟฟ้าให้รอบคอบ เพื่อความปลอดภัยในการจัดเก็บ และหากสินค้าต้องควบคุมอุณหภูมิหรือมีลักษณะพิเศษ อย่าลืมตรวจสอบว่าโกดังสามารถรองรับได้หรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงที่สินค้าจะได้รับความเสียหายโดยใช่เหตุ โดยการตรวจสอบดังกล่าวควรดำเนินการโดยทีมงานที่มีความรู้ เช่น วิศวกรโยธา ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบคลังสินค้า หรือนักโลจิสติกส์มืออาชีพ


4. เช็กความปลอดภัยและระบบป้องกันภัย


โกดังให้เช่าต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น กล้องวงจรปิด ระบบสัญญาณเตือนภัย การรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง รวมถึงระบบป้องกันอัคคีภัยที่ครบครัน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าของคุณจะปลอดภัยแม้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด


5. ตรวจสอบประวัติของบริษัทให้เช่าคลังสินค้าย้อนหลัง


การเลือกบริษัทให้เช่าคลังสินค้าควรตรวจสอบประวัติของบริษัท และรีวิวจากลูกค้าเก่าอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญและมีความน่าเชื่อถือในตลาด ช่วยให้การดำเนินธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความมั่นคงมากขึ้น

วิธีจัดระเบียบโกดังให้เช่า เพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจ


นอกเหนือจากการทำสัญญากับบริษัทให้เช่าคลังสินค้าด้วยความระมัดระวังแล้ว อีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจของคุณ คือการจัดระเบียบโกดังให้ดีด้วย 6 วิธีง่าย ๆ ได้แก่


1. แบ่งพื้นที่เก็บสินค้าตามประเภทสินค้า


ไม่ว่าสินค้าของคุณจะเป็นสินค้าทั่วไปหรือสินค้าควบคุมอุณหภูมิ การแบ่งพื้นที่เก็บตามประเภทสินค้า จะช่วยให้การจัดเก็บและการค้นหาสินค้าเป็นไปอย่างมีระเบียบและมีประสิทธิภาพ โดยการจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน หรือใช้แท็กสินค้าและการจัด SKU เข้ามาช่วย จะทำให้สามารถจัดเรียงสินค้าในพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวก เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าและการขนส่ง ลดความผิดพลาดได้เป็นอย่างดี


ที่สำคัญการแยกประเภทสินค้าไม่เพียงช่วยในแง่ของประสิทธิภาพด้านการจัดการ แต่ยังช่วยลดอัตราการปนเปื้อนของสินค้าได้อีกด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์หรือสินค้ากลิ่นแรงอย่างทุเรียน ที่ควรจัดเก็บในห้องเย็นเก็บทุเรียนโดยเฉพาะ เพื่อลดความเสี่ยงกลิ่นปนเปื้อนกับสินค้าชนิดอื่น


2. การใช้ระบบจัดการคลังสินค้า (WMS)


การใช้ระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) ในโกดังให้เช่า จะช่วยให้การติดตามและควบคุมสินค้าที่อยู่ในโกดังแม่นยำมากขึ้น โดย WMS จะช่วยในการจัดการสินค้าตั้งแต่การรับสินค้า, การจัดเก็บ, การเบิกสินค้า จนไปถึงการส่งออกทำได้อย่างสะดวก รวมถึงสามารถติดตามสถานะสินค้าได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังสามารถปรับพื้นที่ให้เหมาะสมกับการหมุนเวียนสินค้าตามความต้องการ และลดโอกาสจัดเก็บหรือเบิกสินค้าผิดประเภทได้


นอกจากนี้ ยังมีการใช้ WMS ร่วมกับกระบวนการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดข้อผิดพลาดจากการทำงานโดยเฉพาะ (Fool Proof) จึงช่วยเพิ่มความแม่นยำในการดำเนินงานในคลังสินค้าได้มากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ Barcode Scanning หรือ RFID ที่ช่วยให้การรับและจัดเก็บสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งยังช่วยลดข้อผิดพลาดจากการจัดสินค้าด้วยมือที่เสี่ยงต่อการเกิด Human Error อีกด้วย 


3. การใช้ชั้นวางสินค้าหรือระบบจัดเก็บอัตโนมัติ (ASRS)


การใช้ชั้นวางสินค้าหรือระบบจัดเก็บอัตโนมัติ (ASRS) ช่วยจัดระเบียบพื้นที่เก็บสินค้าของคลังให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ โดยสามารถประยุกต์ใช้กับการจัดเก็บสินค้าได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ลดการใช้พื้นที่ และสามารถรองรับการหมุนเวียนสินค้าตามลำดับความสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ


4. การควบคุมอุณหภูมิและความชื้น


การจัดระเบียบโกดังให้เช่าสำหรับสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ เช่น อาหารแช่แข็ง ยา หรือ เครื่องสำอาง ที่ต้องเก็บในห้องเย็นหรือพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น จำเป็นต้องระบุรายละเอียดอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมให้ชัดเจน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยในการจัดเก็บ โดยพิจารณาจากใบอนุญาตและมาตรฐานที่ผู้ให้บริการได้รับ เช่น มาตรฐาน ISO 9001 และ ISO 14001, มาตรฐาน GMP, มาตรฐาน HACCP & GHPs และมาตรฐาน Q Cold Chain เป็นต้น


5. การจัดการสินค้าหมุนเวียน (FIFO/LIFO)


เมื่อใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าและปลอดภัยแล้ว การนำสินค้ามาใช้ตามลำดับเพื่อลดความเสี่ยงในการใช้สินค้าที่หมดอายุก็สำคัญเช่นกัน โดยสามารถบริหารจัดการได้ด้วยหลักการ FIFO, LIFO และ FEFO เหล่านี้ 


  • FIFO (First In, First Out) : ระบบการจัดการสินค้าที่สินค้าที่เข้ามาก่อนจะถูกนำออกก่อน เหมาะกับสินค้าที่มีอายุการใช้งานจำกัด เช่น อาหาร ยา 
  • LIFO (Last In, First Out) : ระบบการจัดการสินค้าที่สินค้าที่เข้ามาทีหลังก่อนจะถูกนำออกก่อน เหมาะกับสินค้าที่ไม่มีอายุการใช้งานจำกัด เช่น วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนเครื่องจักร อะไหล่รถยนต์
  • FEFO (First Expired, First Out) : ระบบการจัดการสินค้า ที่สินค้าใกล้หมดอายุจะถูกนำมาใช้ก่อน เหมาะกับสินค้าที่ระบุวันหมดอายุไว้อย่างชัดเจน เช่น อาหาร ยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ


6. การจัดการสิ่งแวดล้อมในโกดัง


สภาพแวดล้อมในโกดังให้เช่าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าทุกประเภท เช่น การควบคุมแสงสว่าง เพื่อให้สามารถมองเห็นสินค้าได้ชัดเจนและสะดวกในการจัดการ การดูแล ระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของสินค้า ซึ่งผู้ให้บริการควรระบุกฎระเบียบภายในคลังอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการใส่ยูนิฟอร์มของพนักงาน การเปลี่ยนชุด รองเท้าที่เหมาะสม หรือการฆ่าเชื้อก่อนเข้าคลัง และเส้นทางเดินเซฟตี้ นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดและบำรุงรักษาระบบต่าง ๆ ภายในโกดังอย่างสม่ำเสมอด้วย


หากคุณกำลังมองหาคลังสินค้าให้เช่า SCGJWD พร้อมให้บริการคลังสินค้าในหลายรูปแบบ รองรับทุกประเภทสินค้า รวมทั้งห้องเย็นสำหรับเก็บอาหารแช่แข็งและสินค้าควบคุมอุณหภูมิทุกชนิด เสริมศักยภาพให้การจัดการคลังสินค้าด้วยทรัพยากรและเครือข่ายที่ครบครัน เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดำเนินการโปร่งใส และให้คำแนะนำโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูงทุกขั้นตอน


สอบถามรายละเอียดบริการ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่


  • โทรศัพท์: 02-710-4000 / 02-586-1979  
  • LINE : @SCGJWD


ข้อมูลอ้างอิง 

  1. How to Organize a Warehouse: 6 Steps to Efficient Warehouse Organization. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 จาก https://www.camcode.com/blog/how-to-organize-warehouse/ 

Service Recommended