ศูนย์ควบคุมปฏิบัติงานขนส่ง

Control Tower คืออะไร ทำไมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบโลจิสติกส์

ปัจจุบันเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Cloud Computing, Artificial Intelligence (AI), Internet of Things (IoT) ฯลฯ ได้ถูกนำมาประยุกต์และต่อยอดเพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในแง่ของการลดต้นทุนการผลิต ความปลอดภัย ความโปร่งใส และความสะดวก โดยเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ จะสามารถทำได้ตั้งแต่ การคาดการณ์และวางแผนการขนส่งสินค้า วางแผนการจัดส่งบนเส้นทางที่ดีและเหมาะสมที่สุด รวบรวมและวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาด เเละอีกหนึ่งเทคโนโลยี Control Tower ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมข้อมูลทั้งหมดขององค์กร ที่เราจะชวนมาทำความรู้จักในวันนี้

Control Tower คืออะไร

Control Tower คือ ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติงานที่สามารถมองเห็นได้แบบครอบคลุมทุกกระบวนการ ผสานกับเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้การดำเนินการด้านการขนส่งเกิดประสิทธิภาพสูงสุด Control Tower ทำหน้าที่ตรวจสอบตำแหน่งของรถขนส่ง เพื่อให้ส่งสินค้าถึงปลายทางได้ตรงตามเวลา และเป็น Safety Monitoring Center ที่มีทีมงานดูแลตลอด 24 ชม. ในกรณีที่เกิดความผิดปกติด้านความปลอดภัย พนักงานภายในห้องควบคุมจะติดต่อพนักงานขับรถเพื่อแจ้งเตือนทันที เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสินค้าเสียหาย โดยข้อมูลในระบบทั้งหมดจะถูกนำมาประมวลผลเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเทคโนโลยีหลัก ๆ ที่ใช้ใน Control Tower มีดังนี้

  • ระบบ TMS (Transportation Management System) ระบบบริหารจัดการการขนส่งทั้งระบบ ตั้งแต่การรับออเดอร์ บริหารจัดการเที่ยวรถ ส่งงานและรายละเอียดให้คนขับ ฯลฯ 
  • Queuing ระบบบริหารจัดการคิวในการเข้ารับสินค้าที่ต้นทาง 
  • ระบบ Track & Trace การติดตั้ง GPS พร้อมแพลตฟอร์มติดตามสถานะการขนส่งแบบเรียลไทม์ ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ รองรับทั้งคอมพิวเตอร์ และมือถือ
  • Telematics Solution คือเทคโนโลยีที่ใช้ควบคู่กับการขับขี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง เช่น ระบบ Door Sensor, Temperature Sensor , AI Camera เป็นต้น

บทบาทหน้าที่สำคัญของ Control Tower

การจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งโดยใช้ Control Tower จะต้องผ่านการวิเคราะห์และออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละธุรกิจ และให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม Control Tower มีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญ และจะสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้ ดังนี้

1. วางแผนการขนส่ง

ตั้งแต่การวิเคราะห์เส้นทางที่สั้นและดีที่สุด การเลือกยานพาหนะที่เหมาะสม การคำนวณปริมาณและน้ำหนักของสินค้าในการขนส่งแต่ละครั้ง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดค่าใช้จ่าย และลดระยะเวลาในการส่งสินค้า 

2. บริหารจัดการการดำเนินการขนส่ง

ควบคุมและติดตามกระบวนการขนส่งทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสั่งงานยานพาหนะ การตรวจสอบเส้นทาง การติดตามสถานะการขนส่งแบบเรียลไทม์ 

3. ติดตามและตรวจสอบการขนส่ง

ระบบสามารถติดตามสถานะการขนส่งแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งได้ตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการและทำให้สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ 

4. บริหารจัดการคิวในการรับสินค้า

ช่วยลดปัญหาความแออัดภายในโรงงาน หรือการจอดรถกีดขวางภายในหรือด้านหน้าโรงงาน

5. ติดตามเเละตรวจสอบด้านความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

หากเกิดความผิดปกติเกิดขึ้น ทีมงานภายในห้องควบคุมจะติดต่อพนักงานขับรถทันที เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสินค้าเสียหาย รวมทั้งมีการบันทึกข้อมูลเพื่อนำมาประมวลผลในการปรับปรุงการะบวนการทำงานในครั้งต่อไป

ประโยชน์และข้อดีของ Control Tower ในการขนส่ง

นอกจาก Control Tower จะช่วยให้ข้อมูลต่าง ๆ ในระบบการขนส่งรวมกันอยู่ในที่เดียวอย่างไร้รอยต่อ ทำให้การประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ง่ายขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์และข้อดีหลัก ๆ ดังนี้   

1. ลดต้นทุน

วัตถุประสงค์หลักของเทคโนโลยีใน Control Tower มีไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้ดีขึ้น ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อธุรกิจมหาศาล คือการช่วยลดต้นทุนในหลาย ๆ ด้าน เช่น ต้นทุนค่าขนส่ง ค่าเชื้อเพลิง รวมทั้งช่วยในเรื่องประหยัดเวลา เพราะระบบจะช่วยคำนวณและวางแผนเส้นทางการขนส่งที่สั้นและดีที่สุด คำนวณปริมาณที่เหมาะสมของการจัดส่งสินค้าแต่ละครั้ง และควบคุมความเร็วในการขับขี่ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม หรือต้นทุนค่าความเสียหายของสินค้า ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อขาดการวางแผนที่รัดกุม การขนส่งที่ล่าช้า หรือการจัดการผิดพลาดอื่น ๆ

2. ป้องกันและควบคุมความเสี่ยงในระหว่างการขับขี่

เทคโนโลยีที่ใช้ใน Control Tower นอกจากจะเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายภายในคลังสินค้าแล้ว ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยต่าง ๆ ในรถขนส่ง เพื่อจะช่วยในการติดตามสถานะของรถและประเมินความเสี่ยงได้แบบเรียลไทม์ เช่น ความเร็ว ระยะรถ สภาพรถ การเปลี่ยนเลนความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ไปจนถึงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ พร้อมบันทึกภาพเหตุการณ์เพื่อเป็นข้อมูลและรายงานผลการขับรถขนส่ง ให้สามารถนำไปวิเคราะห์และพัฒนาการขับขี่ให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ช่วยให้ตัดสินใจได้แม่นยำและง่ายขึ้น

เทคโนโลยีที่ใช้จะช่วยรวบรวมข้อมูลมหาศาลจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ  โดยใช้หลักการทางสถิติ (Statistics) และ ปัญญาประดิษฐ์ (Machine Learing) ในการแยกแยะข้อมูล พร้อมวิเคราะห์คาดการณ์แนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งทำได้ละเอียด แม่นยำและรวดเร็วกว่ามนุษย์ ทำให้สามารถวางแผนงานเพื่ออุดช่องโหว่ของปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ช่วยลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการการทำงานให้มากขึ้น 

4. เพิ่มความพึงพอใจให้กับผู้ใช้บริการ

เมื่อสามารถติดตามการขนส่งได้อย่างใกล้ชิด และได้รับข้อมูลสถานะแบบเรียลไทม์ ทั้งตำแหน่งของรถขนส่งหรือสถานะการส่งมอบ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เช่น การตอบคำถามเกี่ยวกับการขนส่ง การแก้ไขปัญหาสินค้าล่าช้า การตอบสนองต่อคำสั่งซื้อที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีและความพึงพอใจให้กับลูกค้า สร้างความไว้วางใจและเกิดการบอกต่อ ส่งผลดีต่อบริษัทในระยะยาว

5. ลดอัตราการทุจริตในกระบวนการขนส่ง

ระบบสามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กล่าวคือ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนสินค้าคงคลัง กระบวนการการรับสินค้า การจัดส่งสินค้า รวมถึงข้อมูลลูกค้า และเลขเอกสารต่าง ๆ ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถเรียกดูได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบ Cloud จากทุกที่ทุกเวลาเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้เกิดความโปร่งใสในการทำงาน และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

6. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยีจะช่วยคำนวณเส้นทางเส้นทางขนส่งที่สั้นและเหมาะสม หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด พร้อมทั้งยังควบคุมความเร็วของรถขนส่งให้อยู่ในความเร็วที่พอเหมาะ จะช่วยลดการสร้างมลพิษผ่านการที่เกิดจากการเผาผลาญน้ำมันระหว่างการขนส่ง ซึ่งตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน และกำลังมองหาระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกอย่างยั่งยืน

Control Tower เป็นโซลูชันสำคัญสำหรับผู้ให้บริการขนส่ง เพราะการยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่ ถือเป็นความรับผิดชอบที่ผู้ให้บริการขนส่งต้องคำนึงถึง SCGJWD เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระบบ
โลจิสติกส์ ที่จะช่วยวิเคราะห์ ออกแบบและเชื่อมโยงนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการขนส่งตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบโซลูชันที่ตรงตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ ช่วยปิดช่องโหว่ของการทำงานซับซ้อน และความผิดพลาดจากการทำงานของพนักงาน (Human Error) ได้

สนใจใช้บริการ Control Tower ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD

ที่มา : 

www.innoinsight.co.th

www.sap.com

www.savinodelbene.com

Service Recommended