การใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล

ว่าด้วยการบริหาร Intelligent Supply chain

Intelligent Supply Chain Management ที่ดีสามารถช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร และ ขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับธุรกิจของคุณได้ แต่ต้องอาศัยการนำเอาเทคโนโลยี และข้อมูลที่ได้รับมาใช้ให้เป็น !!

Blockchain (จากบทความเรื่อง "Blockchain" ยุคใหม่ของความโปร่งใสใน Supply Chain), Internet of Things และ Intelligent Supply Chain Management กำลังจะเปลี่ยนแปลงการทำงานของคลังสินค้า ร้านค้าปลีก และ ผู้บริโภค โดย Artificial intelligence (AI) จะมีบทบาทมากขึ้น และ การซื้อผ่านเครื่องช่วยต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า machine-aided purchases เช่น การสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียงกับ Alexa (จากบทความเรื่อง “Amazon ... ยุคใหม่ของการ Shopping!!”) ของ Amazon กำลังเป็นที่แพร่หลายในหลาย ๆ ครัวเรือนในปัจจุบัน มันถึงเวลาแล้ว ที่เราควรจะต้องลงทุนในเทคโนโลยีทาง Supply chain แต่ก่อนอื่น คุณต้องมีความเข้าใจในองค์ประกอบ และ ความท้าทายต่าง ๆ ของการทำ Intelligent Supply Chain Management ความกลัว และ การจัดการอย่างไม่รอบคอบ จะเป็นตัวสะกัดกั้นความสำเร็จของ Intelligent Supply Chain Management การที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ใช้งานได้ง่าย นั่นแหละที่น่ากลัว โดย Dr. Ravi Prakash Mathur ผู้เชี่ยวชาญด้าน Supply Chain และ Logistics ได้ให้สัมภาษณ์กับ Digitalist magazine ว่า “ถ้าเครื่องจักรสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ (จากบทความเรื่อง “Machine Learning กับการปฏิวัติ Supply Chain”) ก็อาจจะเข้ามา Disrupt การทำงานของเราทั้งหมดได้อย่างไร ตรงนี้แหละครับที่อัลกอริทึมขั้นสูงจะเข้ามามีบทบาทให้เครื่องจักรสามารถปรังปรุงงานอย่างต่อเนื่องได้โดยไม่ Disrupt การทำงานทั้งหมดของเรา”

แล้วเราจะนำเอา intelligent Supply Chain Management มาใช้ได้อย่างไร?

1. ใช้ Big Data และ อัลกอลิทึม ในการพัฒนาการทำงาน

ในที่นี้รวมถึงการใช้ descriptive, predictive, and prescriptive analytics ในการลดโอกาสที่จะมีปัจจัยอื่น ๆ มารบกวนการทำงานของเรา และ ช่วยให้เครื่องมือต่าง ๆ สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวล

  • descriptive analytics คือ เป็นรูปแบบของการวิเคราะห์ข้อมูลแบบพื้นฐานที่สุด โดยจะเน้นไปที่ความสามารถในการ “อธิบาย” ว่าเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจของคุณ ในช่วงที่ผ่านมา (หรือกำลังเกิดอะไรขึ้น ถ้าได้ข้อมูลที่ปัจจุบันเพียงพอ) และอาจจะสามารถอธิบายได้อีกด้วยว่า “ทำไม” ถึงเกิดขึ้น ระบบสารสนเทศจำพวก รายงานทางธุรกิจ รายงานการขาย ผลประกอบการ ผลการดำเนินงาน
  • predictive analytics คือ รูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลที่ก้าวหน้าขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง โดยเป็นการพยายาม “พยากรณ์” สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยใช้ข้อมูลของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เข้ามาวิเคราะห์ร่วมกับโมเดลทางคณิตศาสตร์ หรือร่วมกับการใช้ เทคนิค data mining สิ่งที่ predictive analytics มอบให้ก็คือ ความสามารถในการวิเคราะห์หาโอกาส และความเสี่ยงของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตัวอย่างหนึ่งของ predictive analytics คือการคำนวณ credit rating score ที่มักใช้โดยสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
  • prescriptive analytics คือ รูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลแบบนี้ ถือว่าก้าวหน้าที่สุด เพราะไม่เพียงแต่จะพยากรณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สาเหตุ และระยะเวลาที่จะเกิดขึ้น แต่ยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับทางเลือกที่มี รวมถึงผลที่จะตามมาของแต่ละทางเลือกด้วย อีกหนึ่งองค์ประกอบหนึ่งที่ Prescriptive Analytics มี คือความสามารถในการปรับเปลี่ยนการวิเคราะห์ เมื่อได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเพิ่มมากขึ้นPrescriptive Analytics จำเป็นต้องใช้ข้อมูลที่กว้างขวาง หลากหลายมากกว่าเพียงแค่ข้อมูลในอดีต และตรงประเด็นนี้เองที่มีความเกี่ยวพันกับ Big Data เป็นอย่างมาก

2. ให้การเรียนรู้ของเครื่องจักรทำงานตลอดเวลา

การเรียนรู้ของเครื่องจักร จะช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเหมาะสม และ เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา

3. ใช้ระบบอัตโนมัติเท่าที่สามารถทำได้

เพราะระบบอัตโนมัติ จะช่วยให้เราประหยัดเวลา เอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นได้ เพื่อให้ Supply Chain มีคุณค่ากับลูกค้ามากขึ้น

4. นำเอา Internet of Things มาใช้

Internet of Things นั้นมีความสำคัญมากในแง่ของการจัดการความซับซ้อนใน Supply Chain เนื่องจากลูกค้าไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศอีกต่อไป แต่เราต้องพัฒนาตลาดต่างประเทศด้วย ซึ่งการใช้ IoT จะช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ดีขึ้น และ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นเช่นกัน

5. ใช้ RFID และ Blockchain ในการพัฒนาการติดตามสินค้า

RFID มีความสามารถในการอ่านข้อมูลของฉลากได้โดยที่ไม่ต้องมีการสัมผัส สามารถอ่านค่าได้แม่นยำแม้ในสภาพที่ทัศนวิสัยไม่ดี ทนต่อความเปียกชื่น แรงสั่นสะเทือน การกระทบกระแทก และสามารถอ่านข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง ซึ่งรวดเร็วและแม่นยำกว่าการใช้บาร์โค้ดอย่างมาก และ Blockchain ก็จะให้ลูกค้ามีมั่นใจในสินค้า ทราบแหล่งที่มาว่ามาจากที่ใด ของดีจริงหรือไม่ และยังสามารถนำมาปรับใช้กับการติดตามสถานะการขนส่งสินค้าได้อีกด้วย

6. ไม่หยุดที่จะพัฒนา

ถึงแม้เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยเราได้ในหลาย ๆ อย่าง แต่อย่าลืมว่าเราต้องเป็นคนออกคำสั่งนะครับ อย่าหยุดอยู่กับความสำเร็จในปัจจุบัน เพราะในอนาคตอาจจะใช้วิธีการแบบนี้ไม่ได้

แล้วหน้าตาของ Intelligent supply chain management ที่ดีจะเป็นอย่างไร หลาย ๆ ท่านอาจสงสัย

Intelligent supply chain management ที่ดีจะเกิดขึ้นได้ เพียงใช้ข้อมูลที่มีมากมายมหาศาลอย่างเต็มที่ เพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จนได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เราสามารถนำมาพัฒนาการทำงานของเราได้ นอกจากนี้ ยังต้องอาศัยการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกันของคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า ร้านค้า และ ร้านค้าบนออนไลน์ ในทุก ๆ ที่จะต้องสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล และ ปรับเปลี่ยนเส้นทางในการเข้าถึงลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะสามารถได้รับสิ่งที่เขาต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา

ทั้งนี้ การเราต้องคิดถึงความต้องการของลูกค้าด้วย ไม่ใช่พิจารณาแต่การลงทุนในสิ่งต่าง ๆ มากมาย แต่ลูกค้าไม่ได้ต้องการ ไม่ได้เห็นความสำคัญ หรือ ไม่ได้ช่วยให้เราตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น เทคโนโลยีที่ดี ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด แต่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเราขับเคลื่อนองค์กร แก้ไขปัญหา และ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นต่างหาก

สนใจบริการติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD

ที่มา :
www.thebalance.com
www.slideshare.net/poojagoyal19
www.pexels.com
www.canva.com

Service Recommended