SCGJWD-รถขนส่งรถยนต์

โซลูชันขนรถยนต์ ช่องทางขยายโอกาสในธุรกิจยานยนต์

ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปัจจุบันคึกคักขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการจากภาครัฐ รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์และธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค หรือขนรถยนต์ชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังเป็นกระแสมาแรง เพราะตอบโจทย์ในเรื่องพลังงานสะอาด ช่วยลดมลพิษทางอากาศ และช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิง

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย

ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรี โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ประเมินแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ช่วงปี 2566-2568 สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ พร้อมกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะผลประกอบการของผู้ผลิตรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ใหม่จะเติบโตได้ดี ขณะที่ธุรกิจรถยนต์มือสองจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น

ในขณะที่กองนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) คาดว่าจะมีการผลิตรถยนต์ในประเทศประมาณ 1.9 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศประมาณ 40%-45% และผลิตเพื่อส่งออกประมาณ 55-60% ซึ่งนอกจากการผลิตรถยนต์สำเร็จรูปส่งออกแล้ว อะไหล่รถยนต์หรือชิ้นส่วนรถยนต์ยังเป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของสินค้าส่งออกมูลค่าสูงสุดของไทยแทบทุกปี และข้อมูลปี 2565 ขององค์การการค้าโลก (WTO) ไทยยังเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ติดอันดับท็อป 10 ของแหล่งส่งออกผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไปยังตลาดโลกอีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้า เมกะเทรนด์ที่ต้องจับตา

รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV (Electric Vehicle) นับว่าเป็นเมกะเทรนด์ที่น่าจับตามอง ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความโดดเด่นขึ้น และมียอดจำหน่ายที่สูงขึ้น โดยในปี 2566 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นถึง 684.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และรถยนต์ไฟฟ้าก็ตอบโจทย์ในส่วนนี้ ทั้งในแง่ของการลดมลพิษทางอากาศ และมลพิษทางเสียง

ในส่วนของอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น ภาครัฐยังให้การส่งเสริมการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเพิ่มมากขึ้น เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ครอบคลุมตั้งแต่ การวิจัย การผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ อะไหล่รถยนต์เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) โดยปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย และเริ่มเดินสายพานการผลิตในปีนี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม แม้ภาครัฐจะออกนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายนโยบาย แต่อุตสาหกรรมยานยนต์สันดาป (ICE) ที่หยั่งรากลึกในไทย และเป็นรถยนต์ที่คนไทยคุ้นเคยมาอย่างยาวนาน ก็ยังคงได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้ไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์สันดาปแห่งสุดท้ายของโลกด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์การสร้างโอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์

1. ติดตามความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้า

ปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจคือลูกค้า เพราะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิม หรือ เพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่เพื่อการเติบโตของธุรกิจก็ตาม แม้การติดตามเทรนด์การตลาด พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าจะไม่ถือเป็นกลยุทธ์ซะทีเดียว แต่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญ ที่จะช่วยวิเคราะห์ให้คุณได้สร้างกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปได้อย่างก้าวกระโดด

เช่น ลูกค้าส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไป โดยเน้นศึกษาข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากขึ้น รวมทั้งด้วยระบบขนส่งที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภค ทำให้การรอสินค้าที่สั่งใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ผู้ประกอบการอาจจะสร้างกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขาย ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค อย่างการสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย น่าเชื่อถือ และมีระบบติดตามการขนส่งที่ลูกค้าสามารถติดตามสถานะได้ด้วยตนเอง เพื่ออำนวยความสะดวกเเละสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า นอกจากนี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย

2. มุ่งเน้นการบริการหลังการขาย

นอกเหนือจากส่วนการผลิตรถยนต์และอะไหล่รถยนต์แล้ว อีกหนึ่งช่องทางจะที่ขยายโอกาสในธุรกิจยานยนต์ คือ การบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นบริการตรวจเช็กและซ่อมบำรุงจากช่างที่ชำนาญและวางใจได้ บริการให้เช่ารถยนต์ระหว่างรอซ่อม หรือบริการขนรถยนต์เพื่อเข้าซ่อม หรือขนรถยนต์ไปส่งยังจุดหมายที่ลูกค้าต้องการ การใส่ใจและพิถีพิถันในการบริการเหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มโอกาสการขยายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี

3. ใช้ระบบโลจิสติกส์ที่น่าเชื่อถือ

หากผู้ประกอบการต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ ยังมีอีกหนึ่งสิ่งซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ คือ การขนส่งหรือระบบโลจิสติกส์ ทั้งในส่วนของการขนส่งชิ้นส่วนรถยนต์ หรือขนรถยนต์สำเร็จรูป เพราะเมื่อคุณภาพสินค้าดีแล้ว แต่ระบบการขนส่งขาดประสิทธิภาพ ย่อมไม่เกิดผลดีต่อธุรกิจ ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์จึงสำคัญมาก เพราะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีประสบการณ์จะช่วยออกแบบโซลูชันที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจของคุณ

ระบบโลจิสติกส์ที่ดี จะช่วยบริหารจัดการในส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขนรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ การจัดการคลังสินค้า การจัดรูปแบบและเส้นทางการขนส่งที่เหมาะสม เช่น การขนส่งแบบ Milk Run จะนิยมใช้สำหรับการขนส่งชิ้นส่วนรถยนต์ เพราะจะมีวิธีการรวบรวมการจัดส่งสินค้าหลาย ๆ จุดหมายลงในการเดินทางเดียวกัน ทำให้ไม่เกิดปัญหาวิ่งรถเที่ยวกลับแบบสูญเปล่า ช่วยให้เกิดความคุ้มค่าที่สุดในการขนส่งแต่ละครั้ง (ทำความรู้จักการขนส่งแบบ Milk Run เพิ่มเติมได้ ที่นี่) รวมทั้งยังมีการประกันความเสียหายหรือสูญหายของสินค้าที่ขนส่งและจัดเก็บอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาการขยายโอกาสทางอุตสาหกรรมยานยนต์ SCGJWD เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์โซลูชันด้านยานยนต์แบบครบวงจรทั้งประเภทรถยนต์สันดาป (ICE) เเละรถยนต์ไฟฟ้า (EV) การนำเข้าเเละส่งออกรถยนต์หรือชิ้นส่วนยานยนต์ บริการลานจอดพักรถยนต์ และรับบริหารจัดการคลังและรถยนต์ในพื้นที่ของลูกค้า (Onsite Service) ด้วยประสบการณ์จากการให้บริการผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำ และซอฟต์แวร์ทันสมัยลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ที่ฝากผ่านระบบออนไลน์ และติดตามสถานะของรถยนต์ได้ตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ และให้คำปรึกษาออกแบบโซลูชันให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจแต่ละประเภท

สนใจบริการโลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การขนรถยนต์ การขนส่งชิ้นส่วนรถยนต์ และการขนส่งแบบ Milk Run คลิก หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่เบอร์ 02-710-4000 / 02-586-1979 และช่องทางไลน์ LINE : @SCGJWD

ที่มา:
www.krungsri.com
www.kiplinger.com
www.thansettakij.com
www.mgronline.com
www.oie.go.th

Service Recommended